ลูกเสือโคร่งถูกประกาศขายทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าชุดเหยี่ยวดง ออกปฏิบัติการร่วมกับตำรวจเข้าตรวจสอบและจับกุมชายผู้กระทำผิดได้ 3 ราย ยอมรับนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีค่านายหน้าให้
6 เมษายน 2565 นายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า นายอรรถพร บัวฝ้าย ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362/ชุดเหยี่ยวดง ชุดปฏิบัติการพิเศษ จากสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับประสานงานจากตำรวจ ว่ามีการประกาศขายสัตว์ป่า จำพวกสัตว์เลี้ยงลูก ชนิดเสือโคร่ง ทางสื่อออนไลน์ (Facebook)
มีการนัดรับส่งสินค้าสัตว์ป่า บริเวณลานจอดรถชั้น G ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในตำบาลธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จึงได้มีการประสานและมอบหมายให้นำชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 ส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติ และชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว
วันที่ 5 เมษายน 2565 เวลา 19.05 น.คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ตำรวจ กก.2 บก.ปทส มูลนิธิด้านการสืบสวนการค้าสัตว์ (WJC) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม
โดยเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าว ได้มีชาย 1 คน ขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้สีเทา เข้ามาในลานจอดรถ ชั้น G เพื่อรอส่งมอบสัตว์ป่า ให้กับชาย อีก 2 คน ซึ่งรออยู่ก่อนแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต้อนรับปีเสือทองกับการติดตามสถานการณ์เสือทั่วโลก ที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที
การหายตัวไปของเสือโคร่งพิจิตร และความสำคัญของเสือที่กำลังจะสูญพันธุ์
วันนอนหลับโลก 17 มี.ค. ชวนส่องชีวิตสัตว์โลก พวกมันนอนกี่ชั่วโมงกันนะ?
คณะเจ้าหน้าที่ซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอด จึงเข้าแสดงตัว และเข้าตรวจยึด-จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน คือ นายพี (ขอสงวนนามสกุล) นายตุ้ม (ขอสงวนนามสกุล) นายตรี (ขอสงวนนามสกุล) และตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง (อายุประมาณ 4 เดือน) จำนวน 1 ตัว รถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้สีเทา 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
โดยนายพี และนายตุ้ม ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนได้ติดต่อขอซื้อลูกเสือโคร่งมาจากนายตรี ที่อ้างว่านำลูกเสือโคร่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งหากมีการซื้อขายสำเร็จ จะแบ่งเงินค่านายหน้าให้นายพีฯ และนายตุ้ม คนละครึ่ง แต่ถูกคณะเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
บทลงโทษ
โทษผู้กระทำผิดกรณีครอบครองและร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว (มูลค่า 400,000 บาท) พร้อมยึดอุปกรณ์ทำผิดดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
จึงควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 คน ดังกล่าว เป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวข้างต้น พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สถานะลูกเสือ
ทั้งนี้ได้ขอความเห็นชอบจากพนักงานสอบสวน ขอรับมอบของกลาง เป็น ลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว ส่งมอบให้กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับตรวจสอบชนิดพันธุ์และดูแลรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป
โดยจากนี้กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะนำลูกเสือโคร่งที่ตรวจยึดได้ ไปตรวจสอบขยายผลกับฐานข้อมูลเสือโคร่งในกรงเลี้ยง ทางขบวนการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ว่าลูกเสือโคร่งดังกล่าว มีที่มาอยู่ในประเทศไทยหรือไม่อย่างไรต่อไป
ที่มาข้อมูล