ไม่เกิน 24 เม.ย. รู้เรื่อง! ทนายเดชา เปิดเผยว่าตำรวจเตรียมแถลงสรุปคดีเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" คาดมีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น ส่วนที่ยื่นถอน กมธ. เพราะจะได้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ อีกทั้ง หมอพรทิพย์ หมดความจำเป็นแล้ว ใครที่วิจารณ์เตรียมรับหมายศาล
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาว "แตงโม นิดา" กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นหนังสือ ขอให้ กมธ. ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม ว่า สำหรับกรณีที่นางภนิดาถูกวิจารณ์ว่าเปลี่ยนไปนั้น เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ตอนนี้มองว่าคุณหมอพรทิพย์ หมดความจำเป็น เนื่องจากในตอนนั้นเป็นทนายคนเดิมที่ดูแล ด้วยคดีด้วยสถานการณ์ฉุกละหุก ทนายคนเดิมเลยแนะนำให้ไปขอคำแนะนำจาก กมธ. แต่หลังจากนางภนิดาได้ไปพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พบหมอนิติเวช สถานการณ์เลยเปลี่ยน พบว่าการทำงานของตำรวจมีความเรียบร้อยดี และทำให้นางภนิดา หมดข้อสงสัย จึงมองว่าคุณหมอพรทิพย์ ไม่มีความจำเป็นแล้ว
นายเดชา กล่าวปฎิเสธว่า นางภนิดาไม่ได้ถูกกดดัน หรือถูกข่มขู่ และไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง เพราะนางภนิดา ไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่จากการที่นางภนิดาได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เพียงระบายกับนางภนิดา โดยเผยถึงความทุกข์ใจที่สมาชิก กมธ. ได้ไปให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ว่าทำงานเอนเอียง นางภนิดาเลยตัดสินใจด้วยตนเองว่าให้ถอนเรื่องให้จบ จะได้ไม่มีใครมีสิทธิ์มาพูดอีก โดยนางภนิดาเองก็พึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ไม่สืบสวนคดีให้แล้ว ใครจะทำ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
DSI แถลง คดีแตงโม บอกรอทำสำนวน เม.ย. นี้ เตรียมส่งพิจารณาเป็นคิดพิเศษหรือไม่
เต๊ะ ศตวรรษ เคลื่อนไหว! หลัง แม่แตงโม จ่อถอดจากผู้สังเกตการณ์ ผ่าชันสูตรรอบ 2
เปิด "จดหมายแม่แตงโม" เขียนด้วยลายมือ ร่ำไห้อาลัยครบรอบ 1 เดือนแตงโม ตกเรือ
การทำคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการรายงานให้นางภนิดาทราบทุกอย่างจนเป็นที่พอใจ เพียงแค่ไม่ได้บอกกล่าวต่อสังคม รวมถึงในขณะนี้ นางภนิดาเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องคดีแล้วแถมยังชวนตนไปร้องเพลงอยู่เลย ทั้งนี้นางภนิดาก็มั่นใจ 100% ว่าแตงโมจะได้รับความยุติธรรม เพราะทุกข้อสงสัยของสังคม ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบหมดแล้ว รอเพียงการแถลงปิดคดีเท่านั้น ซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 24 เม.ย.นี้ ก็อาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และรอการสรุปต่อไป
สำหรับกรณีของนาย ศตวรรษ หรือเต๊ะ ที่นางภนิดาได้เปิดเผยว่า เป็นคนนอก ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ตัวแทนญาตินั้น ทนายเดชา เผยว่า นางภนิดาไม่ได้ติดใจอะไรกับคุณเต๊ะ ในตอนที่เข้าไปสังเกตการณ์ผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งนางภนิดาก็ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยินยอมให้เข้าไปสังเกตการณ์ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าให้เข้าไปในฐานะตัวแทนของคุณแม่หรือญาติ และคุณเต๊ะ เองก็ไม่ได้มีการเอาเรื่องต่างๆ ไปให้สัมภาษณ์มากนัก นางภนิดาจึงไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่จุดมุ่งหมายในตอนนี้นั้น ไม่ต้องการให้คนนอก ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกแล้ว เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี เปรียบเหมือนไส้ติ่งที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย
ส่วนกรณีผู้ที่นำเรื่องต่างๆในสำนวน หรือเรื่องของการผ่าชันสูตรศพไปพูดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น นายเดชา กล่าวว่า หากหลังจากนี้ยังไม่หยุด แล้วนางภนิดาเกิดทนไม่ไหว ก็ขอให้เตรียมรับหมายศาล เช่นเดียวกับโซเชียลที่มาวิพากษ์วิจารณ์นางภนิดา เกินความจำเป็นด้วย แต่ตอนนี้นางภนิดา ยังเฉยๆ แต่ถ้าไม่หยุดก็เตรียมรับหมายศาลเช่นกัน
เรื่องผลชันสูตรศพ แตงโม นิดา ในรอบที่ 2 โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว คาดว่าคณะทำงานคดีการเสียชีวิตของแตงโม จะนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนในสัปดาห์นี้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้สำนวนคดีครบถ้วนสมบูรณ์ขึ้น พร้อมระบุว่า ในเบื้องต้นผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เหมือนกับผลการชันสูตรโดยสถาบันนิติเวชวิทยาของโรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนการจะร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับใครหรือไม่นั้น ทนายเดชาเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่ตนเองอาจจะร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมกับผู้ที่ทำลายหลักฐาน ในความผิดฐานช่วยผู้อื่นให้มิต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง หรือทำลายหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ต้องรอดูผลการตรวจสอบพยานหลักฐาน เพื่อจะยืนยันตัวบุคคลในการร้องทุกข์เอาผิดกับบุคคลนั้นก่อน
ด้านเลขาฯ กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า การผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่พบตรงไหนผิดปกติ ส่วนจะแถลงข่าวผลการผ่าพิสูจน์คาดว่าจะเป็นช่วงวันที่ 31 มีนาคม หรือ 1 เมษายนนี้ เพราะมีสรุปรายงานเบื้องต้นมาบ้างแล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่าผลชันสูตรครั้งที่ 2 ตรงกับการชันสูตรครั้งแรกอยู่หลายข้อ จาก 11 ข้อที่แม่แตงโมสงสัย แต่ในรายละเอียดต้องรอรายงานอย่างเป็นทางการก่อน และเนื้อหาการแถลงข่าวก็จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่กระทบกับรูปคดีด้วย
ส่วนกรณีที่มีทนายความและนักเคลื่อนไหวไปร้องขอให้ดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ อยากให้มองเป็นคดีอาญาทั่วไป ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการ แต่เมื่อมีคนมาร้องทุกข์ ดีเอสไอก็ต้องรับเรื่องและตั้งเลขสืบสวน
"ยังไม่ได้หมายความว่ารับเป็นคดีพิเศษ หากสืบสวนแล้วเข้าเงื่อนไขคดีพิเศษ ก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่อีก ซึ่งคดีนี้สุดท้ายแล้วดีเอสไออาจจะไม่รับเป็นคดีพิเศษก็ได้ อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ดีเอสไอจะสอบสวนอีกทางหนึ่งก็ทำไป หากมีข้อมูลพยานหลักฐานใหม่ว่าเป็นการฆาตกรรม ก็สามารถรื้อคดีในอนาคตได้"