ดราม่าชาบู! งานเข้า 2 พ่อลูก จากความซึ้งกลายเป็นจนทิพย์หลอกกินฟรี?
จากโมเมนต์ซึ้งพ่อลูก กลายเป็นดราม่าชาบูจนทิพย์ หลังมีการตั้งข้อสงสัยว่าหลอกกินฟรีหรือไม่ นาทีประทับใจความรักที่สร้างรอยยิ้ม กลายเป็นเรื่องโกหก จนสังคมโจมตี ด้านพนักงานร้านยืนยันเพียงแค่อยากแชร์โมเมนต์น่ารัก ไม่ได้แฝงเจตนาอื่น
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Panumas B. Sroitong เจ้าของร้านฮาโหลชาบู อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้โพสต์เรื่องราวของสองพ่อลูก ที่เข้ามารับประทานที่ร้าน และมีเรื่องราวที่ทำให้พนักงานพากันร้องไห้น้ำตาไหลจนกลายเป็นกระแสโซเชียล ที่ประทับใจในความรักของสองพ่อลูกที่มีเงินไม่พอเข้ามานั่งกินชาบูในร้าน
ข้อมูลจากสำนักข่าวไทยรัฐ ที่ได้สัมภาษณ์ไปยังเจ้าของร้าน น.ส.ภานุมาส แบบประดับ ซึ่งเธอได้เปิดเผยว่า “ที่โพสต์เรื่องดังกล่าวลงไปในโซเชียล เนื่องจากประทับใจและเนื้อหาคล้ายละครสอนคุณธรรม ส่วนสาเหตุที่ให้ทานฟรีนั้นเพราะเข้าใจความรักของพ่อลูก ไม่ได้คาดหวังถึงกระแสแต่อย่างใด ขอบคุณที่ให้การชื่นชมมากมายขนาดนี้”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังจากการนำเสนอข่าวที่กลายเป็นกระแสไวรัล อีกด้านหนึ่งก็มีการตั้งคำถามว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือว่าการหลอกกินฟรี เพราะมองว่าหาอยากกินก็ควรต้องหาเงินให้พอ ไม่เข้าใจว่าการให้ทานฟรีมันน่าประทับใจตรงไหน อีกทั้งยังเกิดเป็นการตั้งคำถามว่าจนจริงแล้วอย่างไร ต้องให้แบบนี้หรือ
จากการสัมภาษณ์ของ ทุบโต๊ะข่าว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 65 ได้มีการลงพื้นที่ถามไปยังเจ้าของร้าน ฮาโหลชาบู และ พนักงานภายในร้านว่าเรื่องดังกล่าวเป็นมาอย่างไร
คุณภานุมาส เจ้าของร้านก็ได้อธิบายว่าในส่วนของการโพสต์ว่า “ถ้าแม่น้องเบลล่าอยู่คงดีกว่านี้” อาจเป็นการเข้าใจผิด ต้องขอโทษในส่วนนี้ด้วย ที่คุณพ่อน้องอยากจะสื่อคาดว่าอาจจะหมายถึงว่าถ้าวันนี้ได้มาทานด้วยกันก็ได้ ทางด้านพนักงานในร้านเปิดเผยว่า “ในทีแรกพ่อลูกเพียงสอบถามราคา ก่อนที่จะบอกว่านำเงินมาไม่พอให้น้องทานคนเดียวได้ไหม เมื่อบอกเจ้าของร้านก็ได้รับคำตอบว่าให้เข้ามาทานได้เลย อีกครั้งเมื่อตอนจะจ่ายเงิน เจ้าของพูดว่าไม่เป็นไรวันนี้วันเกิดน้องพี่เลี้ยง”
อีกทั้งทาง ทุบโต๊ะข่าว ยังได้มีการโทรสัมภาษณ์พ่อและแม่ของน้องเป็นการส่วนตัว โดยทั้งคู่ได้ให้เหตุผลว่าไม่ได้ต้องการดังหรือหาเงินรับบริจาคจากเหตุการณ์นี้ สตอรี่อิ่มเอมใจก็ถือว่ามีความสุขแล้ว ที่เรื่องสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นการหลอกกินฟรีแต่อย่างใด
ทางด้าน “หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” พิธีกรไอทีชื่อดัง ก็ได้ให้ความเห็นประเด็นดราม่าชาบู ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” ไว้ว่า “เห็นความพยายามในการไปสืบเสาะเจาะชีวิตสองพ่อ-ลูกที่วันก่อนเกิดเรื่องซึ้งใจว่าพ่อไม่มีเงินมาก แต่ลูกอยากกินชาบู เลยจะให้ลูกกินบุฟเฟ่ต์ราคาเด็กแล้วตนเองรอหน้าร้าน … เจ้าของร้านรู้เรื่องเข้าเลยให้เข้ามากินฟรีทั้งพ่อลูก
สังคมซาบซึ้งกินใจ… เรื่องก็ควรจะจบลงที่ตรงนี้
มาวันนี้สำนักข่าวทีวีช่องหนึ่ง (ที่ไม่ได้อยู่เลข 1) เขาไปสืบต่อ ขุดค้นหาดราม่าว่าพ่อ-ลูกคู่นี้ไม่ได้จนจริง และนี่คือดราม่าหลอกกินชาบูฟรี ๆ
=================
เพื่อนพี่น้องวงการทีวีครับ
เราไม่น่าจะประมูลคลื่นความถี่มาแพงเพื่อทำ “เรื่องแค่นี้” นะครับ
เข้าใจแหละว่าคนดูชอบดราม่า แต่เราทำสื่อ เราต่างต้องมีหน้าที่พัฒนาสติปัญญาผู้คนด้วยนะครับ นอกเหนือจากความบันเทิงที่มอบไป
กว่า 5 หมื่น 3 พันล้านที่ลำบากไปประมูลกันมา หาร 15 ปีใบอนุญาต หาร 365 วัน
มันเท่ากับวันละ 9.6 ล้านบาท (24 ช่องรวมกัน)
คำนวนคร่าว ๆ ไว้ให้อ่านเพื่อระลึกถึงมูลค่าคลื่นครับ
ก่อนออกไปทำงานหาเรื่องหาราวเราลองคิดถึงนี้กันซักหน่อยครับ”
