กรุงเทพมหานคร ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ประเทศไทย จัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในวันที่ 27 มี.ค.64 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund : WWF) ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชน เห็นความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการ และอาคารบ้านเรือนร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
โดยในปีนี้กำหนดจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ณ บริเวณสกายวอล์คช่องนนทรี เขตสาทร พร้อมรณรงค์และเชิญชวนประชาชน บริษัท ห้างร้าน ผู้ประกอบการ และร้านค้า ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 190 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. พร้อมแชร์การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour #Connect2Earth #ShapeOurFuture #อนาคตเราสร้างได้ เพื่อเป็นการแสดงพลังให้รับรู้ถึงความตั้งใจของประเทศไทยในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• อัปเดต “เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.” ประกาศลงทำศึกแล้ว 7 ราย
• กทม.ประกาศคลายล็อกเพิ่ม ดื่มเหล้าได้ถึง 5 ทุ่ม มีผลตั้งเเต่ 15 มี.ค.นี้
• IPCC ฉบับใหม่เผย มนุษยชาติกำลังล่มสลายจากภาวะโลกร้อน ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า จากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเชิญชวนทุกภาคส่วนปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในดวงที่ไม่จำเป็น มาตั้งแต่ปี 2551 – 2564 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 22,398 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,235.40 ตัน คิดเป็นมูลค่า 80.90 ล้านบาท
และสำหรับปี 2564 ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย 25 หน่วยงาน ประกาศเจตจำนง ร่วมดำเนินการลดภาวะโลกร้อนใน 4 ด้าน ประกอบด้วย
• ด้านการขนส่งมวลชน
• ด้านพลังงาน
• ด้านพื้นที่สีเขียว
• ด้านการจัดการขยะมูลฝอย
ผลการดำเนินงานสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในด้านต่างๆ ดังนี้ ด้านขนส่งมวลชน 419.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ด้านพลังงาน 14,288.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ด้านพื้นที่สีเขียว 3,203.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และด้านการจัดการมูลฝอย 5,916.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งในปี 2565 กรุงเทพมหานครยังคงสานต่อการดำเนินการ 4 ด้านดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ภาคีเครือข่าย ทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต มากกว่า 100 แห่ง และเจ้าของอาคารบ้านเรือนในถนน 100 สาย ยังได้ร่วมปิดไฟตามอาคาร ตึกสูง และบ้านเรือน พร้อมกับการปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในสถานที่ที่เป็นแลนมาร์คของกรุงเทพมหานคร 5 สถานที่หลัก ประกอบด้วย
• ดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง
• วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
• เสาชิงช้า
• สะพานพระราม 8
• ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) ในวันดังกล่าวด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในตอนท้ายว่า กรุงเทพมหานครหวังว่ากิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อนจะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความร่วมมือ ที่จะนำไปสู่การผลักดันให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยเห็นความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ความ ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติอย่างง่าย ๆ แต่จริงจังในทุกวัน อาทิ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน การปลูกต้นไม้ ลดการใช้พลังงานเปลี่ยนวิธีเดินทางมาเป็นการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเดิน หรือการขี่จักรยาน ลดการสร้างขยะ ซึ่งความร่วมมือเล็ก ๆ แต่เมื่อทำบ่อยครั้งจะเป็นพลังในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน