โรคระบาดโควิด19 ได้กลับมาอีกครั้งในเมืองเซินเจิ้นทำให้เศรษฐกิจจีนแย่ลงอีกทั้งยังมีสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนเข้ามาเป็นสาเหตุร่วมด้วย
รัฐบาลจีนประกาศล็อคดาวน์และได้เร่งควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน
ปิดร้านค้าและธุรกิจ ระงับการคมนาคมขนส่ง และเปิดการทดสอบทั่วเมือง หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 60 คน เมื่อวันอาทิตย์
ประชากรในจีน ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเมืองยกเว้นในกรณีที่จำเป็นพิเศษ คำสั่งดังกล่าวต้องมีผลกรดนิวคลีอิกเชิงลบภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อออกเดินทาง
ซึ่งเซินเจิ้นเป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทชั้นนำ อย่าง Huawei , BYD, Tencent , WeChat
ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 20 มีนาคม คาดว่าจะทำให้หลายๆธุรกิจต้องติดขัดจากการล็อกดาวน์ครั้งนี้
และยังไม่พอเศรษฐกิจจีนยังต้องพบผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เนื่องจากผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีในจีนได้เทขายหุ้นเพราะตื่นตระหนกกับความสัมพันธ์ของรัสเซียและจีนที่เกรงว่าจะอันตรายและเสี่ยงต่อการคว่ำบาตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผลกระทบด้านดัชนี้หุ้น
ดัชนี Hang Seng Tech และดัชนี Nasdaq Golden Dragon ได้สูญเสียมากกว่า 60% จากจุดสูงสุดตามลำดับ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Alibaba Group Holding Ltd. ทรุดตัวลงมากถึง 9.6% ในฮ่องกง ขณะที่ Tencent Holdings Ltd. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น ร่วงลงมากกว่า 6%
#HangSeng #Tech Index extends loss to 8.3% to hit a new record low of 3,894.44.https://t.co/haGgRmRP6L https://t.co/Tgis1tDhvi pic.twitter.com/PBkRDPptVu
— YUAN TALKS (@YuanTalks) March 14, 2022
ทำให้เห็นว่าผลกระทบทั้งจากโรคระบาดและสงครามทำให้เศรษฐกิจของจีนแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางประเทศจีนจะมีการปรับตัวอย่างไร ทั้งเหตุโรคระบาดที่ทำให้หลากหลายธุรกิจต้องถูกปิดและความสัมพันธ์ของจีนกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์ใหม่ๆที่ทำให้ความสัมพันธ์ของรัสเซียและจีนเปลี่ยนไปก็เป็นได้