อวสาน! บอร์ด GLOCON ไฟเขียวปรับโครงสร้างเคลียร์คัทธุรกิจขาดทุน A&W – Kitchen Plus เหตุโควิด-19 ทำขาดทุนต่อเนื่อง พร้อมเบนเข็มศึกษาอาหารจากโปรตีนพืช (Plant Based Food)
ถึงแม้ A&W จะมีเมนูขึ้นชื่ออย่าง วาฟเฟิล ที่ต่างจากร้านอื่น แต่สุดท้ายร้าน A&W ในประเทศไทยก็ต้องเตรียมยุติกิจการ เนื่องจากการขาดทุนต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 แม้จะดิ้นรนด้วยการอัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นลูกค้ามาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับสิทธิ์บริหารร้าน A&W (เอแอนด์ดับบลิว) ในประเทศไทย เตรียมยุติการดำเนินกิจการ A&W มาจากผลพวงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับการแข่งขันสูง รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้นำการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยแนวโน้มภาพรวมปี 2565 ว่า ล่าสุดคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างเคลียร์คัท (Clear cut) ธุรกิจที่สร้างผลขาดทุน ด้วยการยุติการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร A&W ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯขาดทุนราว 167 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลขาดทุนทางบัญชีเพียงครั้งเดียว แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลขาดทุนที่เกิดจากผลประกอบการของ A&W บริษัทฯจะมีกำไรจาก Business Unit อื่นๆรวมกว่า 60 ล้านบาท
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างนำเสนอเรื่องขอยุติกิจการ กับคณะกรรมการบริษัท โดยปัจจุบันร้านเอแอนด์ดับบลิว มีทั้งหมด 26 สาขา โดยยังให้บริการตามปกติ ทั้งหน้าร้านและช่องทางดีลิเวอรี่ เพราะแบรนด์เอแอนด์ดับบลิวเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน มีจุดขายคือ เมนู วาฟเฟิล และเครื่องดื่มรูทเบียร์ ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหย่อายุ 35 ปี ยังให้การตอบรับที่น่าพอใจ
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการของบริษัท ยังมีมติให้ปิดกิจการร้านอาหาร Kitchen Plus ที่เหลืออยู่ 2 สาขา ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนเช่นกัน โดยแผนการยุติกิจการทั้งสองร้านอาหาร ทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองมูลค่า 160 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัททำธุรกิจหลายประเภท โดยธุรกิจหลัก คือธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ,อาหาร,อาหารแปรรูป รองลงมาคือ ธุรกิจผลไม้อบแห้ง และธุรกิจร้านอาหาร สำหรับผลประกอบการปี 2564 มีรายได้รวม 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ถ้าเทียบจากปี 2563 หากคิดเป็นรายได้จากการขายอาหาร และเครื่องดื่ม (A&W และ Kitchen Plus) มีรายได้ 86 ล้านบาท ลดลง 27% ขณะที่ ปี 2564 ร้านเอแอนด์ดับบลิว ขาดทุนกว่า 70 ล้านบาท และขาดทุนมาต่อเนื่อง ทำให้ที่ผ่านมา ได้ปิดสาขาที่มีรายได้น้อยและไม่ทำกำไรไปหลายสาขา
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ จะโฟกัสขยายธุรกิจด้วยการมุ่งไปที่การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารที่มีความเชี่ยวชาญ เดินเกมรุกเพิ่มกำลังการผลิต ควบคู่ไปกับการเร่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในทุก Business Unit ทั้งกลุ่มอาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน และผลไม้อบแห้ง
พร้อมมองหาพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอาหารจากโปรตีนพืช (Plant Based Food) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับผลิตภัณฑ์ รองรับกระแสคนรักสุขภาพ (Healthy) ซึ่งเป็นตลาดที่มีมาร์จิ้นสูง และมีแนวโน้มอัตราการเติบโตโดดเด่นและยั่งยืน ต่อยอดการเติบโตสู่ Sustainable Food ตอกย้ำวิสัยทัศน์การก้าวสู่ความเป็น “ผู้นำอุตสาหกรรมด้านการผลิตอาหารระดับโลก” อีกทั้งจะมีการรับรู้รายได้จาก “ลูกชิ้นทิพย์” นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 กว่า 540 ล้านบาท เบื้องต้นว่า มั่นใจจากแผนงานทั้งหมดข้างต้น บริษัทฯจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ภายในปี 2566
A&W ก่อตั้งในปี 2468 ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีอายุกว่า 100 ปี สินค้าแรกที่จำหน่ายคือ รูทเบียร์ ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,000 แห่งทั่วโลก ส่วนในไทย A&W เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวปี 2526 แม้จะมีเครื่องดื่มเอกลักษณ์เป็นตัวชูโรง แต่ในสมรภูมิฟาสต์ฟู้ด 30,000 ล้านบาท A&W กลับเป็นแบรนด์รองในตลาดนี้
ที่มา ขาดทุนไม่หยุด GLOCON กัดฟันยุติกิจการ “A&W”-“Kitchen Plus” (thansettakij.com)
A&W เตรียมยุติกิจการในไทย หลังขาดทุนต่อเนื่อง (prachachat.net)
Brand Inside - อวสานร้าน A&W เจ้าของสิทธิ์ในประเทศไทยเตรียมหยุดกิจการ เหตุโควิด-19 ทำขาดทุนต่อเนื่อง