อ.ธรณ์ ยกเคส แตงโม นิดา พลัดตกเรือ แนะมีสติ อย่าตกใจ ว่ายกรรเชียง แขนกวาดน้ำประคองตัว คนว่ายน้ำไม่เป็นก็ทำได้
จากกรณี "แตงโม นิดา" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ตั้งแต่เวลา 22.40 น. ของคืนวันที่ 24 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่ยังคนเดินหน้าค้นหาต่อเนื่องและยังไม่ทราบชะตากรรม
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับกรณีของ แตงโม นิดา ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระบุว่า...ทราบข่าวคุณแตงโมตกเรือ จึงอยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนธรณ์ เผื่อว่าจะมีประโยชน์ครับ
แม่น้ำกับทะเล คนมักกลัวจมทะเลมากกว่า เพราะทะเลกว้าง ฝั่งอยู่ไกล ฯลฯ
แต่แม่น้ำอันตรายหากพลาดพลั้ง เพราะน้ำแรง น้ำขุ่น มีสวะ/ผักตบมากมาย น้ำจืดยังตัวจมง่ายกว่าน้ำเค็ม (เกลือทำให้น้ำเค็มหนาแน่นมากกว่า)
การระวังตัวดีสุดคือชูชีพ หากใส่อยู่ ยังไงก็ลอย และลอยในแม่น้ำแป๊บเดียวก็มีคนเจอหรือเข้าไปใกล้ตลิ่ง ไม่เหมือนในทะเลที่บางทีอาจลอยนานๆ จนกว่าจะมีความช่วยเหลือ เมื่อใส่ชูชีพ ตกแม่น้ำมีโอกาสปลอดภัยสูง ขอเพียงคุมสติ อย่าตกใจ ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องตกใจ เมื่อใส่เสื้อชูชีพแล้ว ไม่ต้องกลัวจมครับ การว่ายน้ำท่าปรกติอาจยาก เพราะเสื้อชูชีพทั่วไปออกแบบให้พยุงให้หน้าพ้นน้ำ นอนหงาย ให้ใช้แขนแบบเวลาว่ายกรรเชียงเป็นหลัก ขาเหยียดออกไปเอาไว้เผื่อถีบสิ่งกีดขวาง แขนสองข้างคอยกวาดน้ำประคองตัวและทิศทาง (คอมเมนต์เพิ่มเติมจากเพื่อนธรณ์ครับ) ด้วยเหตุนี้ ว่ายน้ำไม่เป็นก็ทำได้ ค่อยๆ ลอยไปครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไม่ทราบชะตากรรม
แตงโม นิดา พลัดตกเรือ ระดมหากว่า 7 ชม.ยังไม่พบ พบน้ำด้านล่างแรง เรือเริ่มเยอะ
เรียนรู้ชีวิต แตงโม นิดา จากจุดดิ่งที่สุดกลับมายืนได้ด้วยตัวเอง
ที่สำคัญ อย่าพยายามว่ายสวนน้ำ ให้ว่ายตามน้ำเบนเข้าหาตลิ่งใกล้ที่สุด ระหว่างนั้น สังเกตเรือรอบด้าน ตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่ออยู่ใกล้ (ชูชีพที่มีนกหวีดติดจะดีมาก) เน้นย้ำเรื่องนกหวีด มีประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืน มองไม่เห็นแต่ได้ยินเสียงไปไกลกว่า เป่าแบบให้ไม่เป็นปรกติ คนได้ยินจะได้เอะใจ
ลอยตัวว่ายเฉียงตามน้ำเข้าฝั่ง หรือหากว่ายน้ำไม่เป็น/ไม่แข็ง ให้ลอยไปก่อน ยังไงก็คงผ่านเรือหรือลอยเข้าใกล้ตลิ่งที่มีคนอยู่
ในกรณีที่เข้าใกล้สะพาน น้ำจะหมุนวน/เชี่ยว ต้องระวังให้ดี การเกาะคอสะพานต้านน้ำในช่วงน้ำแรง อาจยิ่งอันตราย ปล่อยตัวผ่านไปอาจปลอดภัยกว่า ค่อยไปหาตลิ่งหลังสะพานขึ้น
หากเจอสวะ/ผักตบลอยมา พยายามหลีกเลี่ยงเพราะอาจพันตัวเราหรือพาเราพุ่งไปชนกับสิ่งกีดขวาง โดยที่เราติดอยู่หลีกเลี่ยงยากการลดอาการตกใจ/สติแตก อาจทำได้โดยดูก่อนว่าเราอยู่ตรงไหน ใกล้ฝั่งไหนมากกว่ากัน มองไปปลายน้ำ ดูเป้าหมายริมตลิ่งที่เราคิดว่าจะไป เป้าหมายไม่ใช่จุดที่ใกล้สุด ต้องเป็นปลายน้ำเท่านั้น มองเฉียงลงไป เอาเป็นเป้าใหญ่ไว้ก่อน
ท่าเรือ/โป๊ะยื่นออกมากลางแม่น้ำ เป็นเป้าดีสุด มีเป้าหมายจะทำให้เราไม่ขาดสติ ค่อยๆ ว่ายเฉียงตามน้ำไปหาเป้าหมาย
หากรู้สึกว่าทำไม่ได้แน่ ไม่ต้องตกใจ มองเป้าต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้น ดูเรือระหว่างทาง หากเข้าใกล้อาจเป่านกหวีด/ตะโกนหากเจอเรืออยู่ใกล้แต่สวนน้ำ ต้องดูให้ดีว่าจะว่ายไปไหม เพราะว่ายสวนในแม่น้ำพร้อมใส่ชูชีพแทบเป็นไปไม่ได้ หากเข้าใกล้เรือ กำลังลอยผ่านไป ตะโกนแล้วไม่มีใครได้ยิน ไม่ต้องตกใจหรือพยายามว่ายสวนน้ำเข้าไปเกาะเรือโดยคนบนเรือไม่รู้ตัว จะอันตรายมาก เรือมีมาเรื่อยๆ ในแม่น้ำไม่ใช่ในทะเล
สุดท้าย เสื้อชูชีพสีสด แม่น้ำแคบ คนคงเห็นในเวลาไม่นาน ยิ่งมีนกหวีดยิ่งปลอดภัย โดยเฉพาะในเวลากลางคืนเน้นว่าทั้งหมดที่เขียนมาคือกรณีใส่ชูชีพ
เป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณแตงโมครับ