"แตงโม นิดา" คนบันเทิงสู้ชีวิต แม้ต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า แต่เธอก็ก้าวผ่านมาได้ แถมยังนำความรู้และประสบการณ์ที่มี มาเผยแพร่เป็นวิทยากรช่วยเหลือสังคม
หากพูดถึงคนบันเทิงที่ผ่านมรสุมในชีวิตมาไม่น้อย หลายๆคนคงนึกถึง "แตงโม นิดา" นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมายาวนาน ผ่านเรื่องราวทั้งสุขทั้งทุกข์มามากมายหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเผชิญกับโรคซึมเศร้าที่เป็นมาหลายปี
แถมยังเคยมีข่าวใหญ่ช็อกวงการ เคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ก้าวผ่านมันมาได้ เพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์และดูแลตัวเองอย่างดี จนอาการดีขึ้นตามลำดับ
ซึ่งที่ผ่านมา "แตงโม" ก็มักหยิบยกประสบการณ์ป่วยซึมเศร้าของตัวเองมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ เพื่อเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยที่กำลังต่อสู้โรคนี้เช่นเดียวกับเธอได้มีแรงสู้ต่อ ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของภัยร้าย
และเมื่อไม่นานมานี้ "แตงโม" ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะสาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง (ผู้นำนักบริหารกิจการเพื่อสังคม : Ex-LSE) วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมเผยความตั้งใจอันแน่วแน่ว่าจะศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกต่อทันที ในสาขาและคณะเดิม เพื่อหวังทำประโยชน์ให้กับสังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นำประสบการณ์และความรู้ มุ่งทำประโยชน์เพื่อสังคม
"เราทำมาตลอดอยู่แล้ว แต่คนไม่ค่อยดูกันหรอกค่ะ ซึ่งที่ทำเป็นหลัก โมเลี้ยงเด็กในอุปการะมาหลายเจนแล้ว จนเขาจบปริญญา มีครอบครัว โมก็ยังทำมาอยู่เรื่อยๆ ปีหนึ่งโมไม่ได้เลี้ยงแค่คนเดียว ถึงแม้เราจะเอาตัวแทบไม่รอด ในส่วนสังคมโมก็ยังรับเป็นวิทยากร เพื่อแนะแนวทางการใช้ชีวิตในเรื่องซึมเศร้าอีกด้วย"
มีพระเยชูเป็นต้นแบบในการพัฒนาสังคม
"ต้นแบบในการพัฒนาสังคม เป็นพระเยซูค่ะ เพราะว่าอย่างที่ทุกคนรู้ คริสเตียนพระเจ้าส่งพระเยซูมาล้างบาปแทนคนทั้งโลก เพราะฉะนั้นคนทั้งโลกก็คืองานสังคมชุดใหญ่แล้วเหมือนกัน ถ้าโมทำอะไรได้ โมก็อยากให้ครั้งหนึ่งมันได้เยอะที่สุด มันจะได้ประโยชน์มากที่สุดค่ะ"
ไม่แน่ในอนาคต อาจจะเป็นนักการเมืองก็ได้
"วันนี้ไม่น่า วันหน้าไม่แน่ค่ะ ต้องดูก่อนว่าตัวเราเองมีบทบาทกับประเทศชาติได้มากแค่ไหน ถ้าเกิดว่าเราเป็นแค่เสียงเล็กๆ เราก็ควรจะเริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน"
"วันหนึ่งที่เรามีสิทธิ์มีเสียงเราอาจจะเอาใช้ตรงนั้นช่วยแก้ปัญหา แต่ ณ เวลานี้เราทำอะไรได้เล็กๆ น้อยๆ พี่ๆ ในวงการที่ทำเพื่อสังคม เขาไม่จำเป็นต้องมีพรรค แต่เขามีใจจิตอาสาที่จะทำ เขาก็สามารถทำได้อย่างพี่ได๋ ไดอาน่า"