"แตงโม นิดา" เปิดใจเรื่องราวชีวิตแบบหมดเปลือก จากจุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต คุณพ่อป่วย ส่วนตัวเองอยากตาย และเจอความรักที่ทุกข์ที่สุดในชีวิต บอกเคยคิดน้อยใจเจอแต่เรื่องแย่ๆ แต่เปลี่ยนมุมมองทำให้จิตใจกลับมาแข็งแกร่งมากขึ้น
เป็นนักแสดงสาวที่มีเรื่องราวชีวิตน่าจับตามองสำหรับสาว "แตงโม ภัทรธิดา" หรือ "แตงโม นิดา" เริ่มตั้งแต่เส้นทางในวงการบันเทิง แตงโมเริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนจะเข้าประกวด มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2002 (พ.ศ. 2545) และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 4
จากนั้น แตงโม ได้เข้ามาเป็นผู้ประกาศของช่อง 7 ก่อนจะแสดงละครเรื่องแรกเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก และแจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับบทนางเอกในละครดราม่าครอบครัวเรื่อง อุ่นไอรัก ในบทบาท กาเหว่า จากนั้นก็มีผลงานละครให้ได้ชมกันมากมายจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด แตงโม ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดใจเรื่องราวชีวิตแบบหมดเปลือก จากจุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตคือช่วงที่คุณพ่อป่วย ส่วนตัวเองก็อยากตายนอนติดเตียง น้ำไม่อาบ ผมไม่สระ ฟันไม่แปรง ข้าวแทบไม่กิน และความรักที่ทุกข์ที่สุดในชีวิตเป็นความรักที่ทำให้อาการโรคซึมเศร้าเป็นหนักกว่าเดิมมาก
ซึ่งสิ่งที่เจอทั้งหมด แตงโม เคยคิดน้อยใจทำไมชีวิตต้องเจอแต่เรื่องแย่ ๆ แต่ปัจจุบันกลับมองว่า ดีที่ชีวิตมีแต่เรื่องแย่ ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้น และกลับมาเป็นแตงโมที่มั่นใจ แต่กว่าจะกลับมาได้ก็ต้องใช้เวลา ชีวิตฟ้าหลังฝนดีขึ้นผ่านมาแล้วกับทุกความหึงหวง อยากเป็นเจ้าของ ตีกรอบให้แฟนแต่ ณ วันนี้ ไม่เป็นแบบนั้นและกลายเป็นคนที่รักเป็น คือรักแต่ไม่ครอบครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดไทม์ไลน์ "แตงโม นิดา" กว่า 10 ชั่วโมงของการค้นหา
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร แตงโม นิดา ผู้หญิงสู้ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา
แตงโม : เราเคยคบกับคนๆ นึง ซึ่งทำให้อาการซึมเศร้าของเราหนักลงมากๆ ลงไปเรื่อยๆ จังหวะนั้นเราป่วยอยู่แล้ว เขาบอกว่าแต่งตัวอะไรอ่ะเหมือนกระหรี่เลยอะไรอย่างนี้ค่ะ คือ ตำหนิทุกอย่างชีวิตไม่เคยมีอะไรดีเลยอยู่ไปอยู่มารู้สึกตัวเองด้อยค่าลงเรื่อยๆ หึงยันจิตแพทย์เลยค่ะ แบบเราอยู่แทบไม่ได้เลย
แต่ก็อยู่มาตั้ง 2 ปี?
แตงโม : หนูทำไปเพื่ออะไรค่ะพี่ คือตอนนั้นถ้าเขาไม่มีเราเขาจะน่าสงสารมาก
แล้วเขามาตามอีกไหม?
แตงโม : เขาไม่ได้มาเชิงมาตามนะคะ เขามาในทำนองว่า โมอยู่ได้หรือเปล่า โมอยู่ได้ไหมในขณะนั้น แต่ตอนนั้นคือโมสนุกมากหนูหลุดแล้ว ทุกคนในบ้านบอกหนูว่าโมกลับมาแล้วอันนี้คือตัวเรา เราไปเป็นใครอยู่ตั้งสองปี
เคยรู้สึกไหมทำไมเราต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ ขนาดนี้?
แตงโม : เมื่อก่อนเคยคิดค่ะ แต่พอเราคิดใหม่แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีจังเลยที่ชีวิตมีแต่เรื่องเขาก็ภูมิใจในโมที่โมเป็นเวอร์ชันนี้ แล้วโมได้ความเป็นตัวเองกลับมา โม มั่นใจมากขึ้นพูดมากขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนโมพูดไม่ได้เลยนะคะ ช่วงนั้นโมพูดแล้วสั่นกลัวพูดผิดหรือพูดถูกหรือเปล่ากว่าเราจะกลับมาเป็นแบบนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ฟ้าหลังฝนมันก็ดีขึ้นมากจริงๆ
ความรักของแตงโมอยู่ในโหมดไหน?
แตงโม : อยู่ในโหมดความปลอดภัยค่ะ มันเป็นช่วงที่โมไม่สบายหนัก คือโมแทบจะนอนติดเตียงเลย คือช่วงที่คุณพ่อป่วยแล้ว โมป่วยหนักมาก โมรับไม่ได้กับการที่คุณพ่อเป็นแบบนี้แบบน้ำไม่อาบ ผมไม่สระ ฟันไม่แปรงข้าวแทบไม่กินอยากตายอย่างเดียว โมอยู่จุดที่ตกต่ำสุดแล้วในชีวิตแต่เขายังมองเห็นค่าเราคนที่เขาทุกข์ไปกับเรามันหาได้ยาก
ย้อนกลับไปเราเคยเป็นคนขี้หึงไหม?
แตงโม : เคยค่ะ แต่ว่าน้อยค่ะ เพราะโมเป็นคนเก็บไม่ชอบพูดเก็บแล้วก็มานั่งทุกข์คนเดียวรอหายเอง โมผ่านมันมาแล้วคือ ความหึงห่วงแล้วความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือไม่ก็เป็นพวกตีกรอบให้แฟนตัวเองอะไรอย่างนี้ค่ะ โม ไม่เป็นแบบนั้นแล้วสำหรับ ณ วันนี้
นิยามคำว่ารักเป็นของแตงโมมันคืออะไร?
แตงโม: รักเป็นของโมก็คือรักแต่ไม่ครอบครอง