svasdssvasds

ภัยแล้งโปรตุเกสรุนแรงเป็นประวัติการณ์ เสี่ยงกระทบพืชผลและแหล่งน้ำ

ภัยแล้งโปรตุเกสรุนแรงเป็นประวัติการณ์ เสี่ยงกระทบพืชผลและแหล่งน้ำ

โปรตุเกสเผชิญภัยแล้งหนักสุด พื้นที่กว่า 91% ของประเทศขึ้นสถานะแล้งจัด รัฐบาลหวั่นกระทบพืชผลและแหล่งน้ำ คาดแล้งสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยเผชิญมา

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักอุตุนิยมวิทยา (IPMA) ได้เผยรายงานว่า ภัยแล้งรุนแรงได้แผ่กระจายไปทั่วแผ่นดินใหญ่ของโปรตุเกสในเดือนกุมภาพันธ์ คุกคามพืชผลและแหล่งน้ำเป็นพื้นที่กว้าง มากกว่าช่วงที่เคยแห้งแล้งเป็นประวัติการณ์ครั้งล่าสุดในปี 2005 หรือก็คือ ครั้งนี้รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมานั่นเอง

ค่าดัชนีล่าสุด จากเว็บไซต์ สำนักอุตุนิยมวิทยา (IPMA) เผยว่า พื้นที่ทางใต้มีความเข้มของสีน้ำตาลมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ซึ่งหมายความว่า อยู่ในระดับ แห้งรุนแรงขั้นสุด (extreme drought) ถึง 11.5% บริเวณเมือง Portimão (ปอร์ติเมา) ในเขตเทศบาลฟาโร (Faro) แต่พื้นที่ปกติมีค่าดัชนีเป็น 0% ซึ่งเท่ากับว่าแห้งทั้งแผ่นดินโปรตุเกสแล้ว ถือว่ารุนแรงขึ้นเป็น 2 เท่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์

ภาพแผนที่จากเว็บไซต์ IPMA แสดงให้เห็นแผนที่ของประเทศโปรตุเกสเป็นสีน้ำตาลทั้งแผ่นดิน ซึ่งหมายถึงภัยแล้งรุนแรงทั้งหมด เทียบสถานะความรุนแรงจำแนกตามสี Cr. IPMA

รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร Maria do Cue Antunes และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสเปน ได้นำเสนอชุดข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันจันทร์ เพื่อหาทางจัดการกับสถานการณ์ รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับเกษตรกรด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลังการประชุมในกรุงบรัสเซลส์ Antunes กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมาธิการเต็มใจที่จะเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยมาตรการเร่งด่วน พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม Joao Pedre Matos Fernandes กล่าวว่ารัฐบาลจะต้อง “ดำเนินการเกินกว่ามาตรการเหล่านี้หากการคาดการณ์เริ่มมืดมน”

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสำหรับวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ มีเพียง 7% ของปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วง 30 ปี แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า คาดการณ์ว่าฝนจะไม่ตกหนักในช่วงที่เหลือของเดือน นอกจากนี้ยังคาดว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติและภัยแล้งจะรุนแรงขึ้น

ณ จุดเดียวกันในปี 2005 เมื่อโปรตุเกสต่อสู้กับภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 6 ทศวรรษ ภัยแล้งเหล่านั้นได้แผ่ขยายไปทั่ว 77% ของอาณาเขตประเทศ ซึ่งตอนนี้ปี 2022 ได้แซงหน้าสถิตินั้นไปแล้ว

กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ภัยแล้งเมื่อต้นปีได้หยุดไปอย่างผิดสังเกตในโปรตุเกสและควรได้รับการพิจารณาใหม่ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อากาศที่แห้งแล้งดังกล่าวมักนำไปสู่ไฟป่าครั้งใหญ่ในฤดูร้อน และไม่ใช่เพียงแค่โปรตุเกสเท่านั้นที่เผชิญกับไฟป่าเพราะความแห้งแล้งของดินและอากาศ ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้

อุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลานี้ของปี และเกือบจะไม่มีฝนตก สถานการณ์ที่สร้างแรงกดดันต่อแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรและการผลิตไฟฟ้า 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นพิเศษ และสภาพอากาศที่แห้งแล้งมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือน ตามรายงานของหน่วยงาน

รัฐบาลโปรตุเกสได้จำกัดการใช้อ่างเก็บน้ำสำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแล้ว เพื่อประหยัดน้ำสำหรับการบริโภคของประชาชน และเกษตรกรกำลังขอความช่วยเหลือทางการเงินเนื่องจากขาดแคลนหญ้าสำหรับปศุสัตว์

นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ช่วงเวลาของภัยแล้งไม่ใช่เรื่องปกติในโปรตุเกส แต่ประเทศโปรตุเกสพบเห็นการเพิ่มขึ้นของความถี่ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมาและคาดการณ์ว่าโปรตุเกสจะเห็นปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ยลดลง 20% ถึง 40% ภายในสิ้นศตวรรษนี้

ศึกษาภัยแล้งในโปรตุเกสเพิ่มเติมได้ที่ >>> Droughts Portugal

ที่มาข้อมูล

https://www.reuters.com/markets/commodities/portugal-drought-worsens-raising-fears-crops-water-supply-2022-02-21/

https://www.independent.co.uk/news/portugal-lisbon-b2019690.html

https://www.ipma.pt/en/oclima/observatorio.secas/

https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-02-21/portugal-s-drought-worsens-rainfall-down-to-7-of-average

related