ชั่วโมงบีบหัวใจ! "อีฟ พุทธธิดา" ลูกสาว "อาต้อย เศรษฐา" ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์พ่ออาการไม่ดี เผยประโยคบอกลาพ่อครั้งสุดท้ายไม่ต้องห่วงอะไรจะดูแลแม่อย่างดี รู้นะว่าหนูรักพ่อมาก
ยังคงเป็นข่าวเศร้าและสร้างความช็อกให้วงการบันเทิงไทยกับการจากไปของศิลปินแห่งชาติ "ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา" วัย 77 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด ที่เจ้าตัวได้สู้รักษามา 2 ปี และในช่วงเช้าของวานนี้ (21 ก.พ.65) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ได้รายงานสิ่งที่ "อีฟ พุทธธิดา" ลูกสาวของอาต้อยเล่าให้ฟังว่า
"ช่วงหลังพ่อกลับมารักษาตัวที่บ้าน วันเกิดเหตุที่พ่อจากไป เป็นวันที่คุณหมอนัดเพื่อไปตรวจดูสภาพร่างกาย ซึ่งวันนั้นที่ไปสภาพร่างกายค่อยข้างอ่อนแรง หมอเลยแนะนำให้แอดมิทเพื่อที่จะให้น้ำเกลือ แล้วก็จากไปในคืนวันนั้น
ที่ผ่านมา 2-3 ปีมานี้พ่อต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างเข้มแข็ง ช่วงหลังอาการแย่ลง หลักๆ ก็คือทานอาหารไม่ได้ ซึ่งอีฟก็บอกพ่อว่าสู้ไปด้วยกันนะ พ่อก็บอกว่าจะสู้ พ่อก็สู้จริงๆ แม่เองก็เฝ้าอยู่ข้างเตียง ดูแลพ่ออย่างใกล้ชิดมากๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช็อกวงการบันเทิง! อาต้อย เศรษฐา เสียชีวิตแล้วในวัย 77 ปี หลังป่วยมะเร็งปอด
ประมวลภาพบรรยากาศพิธีรดน้ำศพ อาต้อย เศรษฐา คนบันเทิงร่วมอาลัย
จนเมื่อ 2 วันก่อน พ่อมีนัดคุณหมอจองเตียงไว้ให้ อีฟก็คิดว่าดีมาก ๆ พ่อจะได้รับสารอาหารจะได้แข็งแรงขึ้น ก็บอกพ่อว่า จะไปคุยงานที่เกาะเสม็ดพ่อโอเคนะ ปกติแม่จะอยู่ดูแลพ่อตลอด แต่ขอเอาแม่ไปด้วยเพราะที่ผ่านมา แม่เหนื่อยมามาก อยากให้พักผ่อนบ้าง
การไปครั้งนี้ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จนกระทั้งเมื่อตอนเย็นก็ได้รับแจ้งว่าคุณพ่อความดันตก เริ่มตกตั้งแต่ตอนบ่าย ก็คอยเช็กอาการตลอด จะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะอยู่ที่เกาะเสม็ดต้องรอเรือ
ตีสองได้รับแจ้งว่าพ่ออาการไม่ดี ก็เลยใช้วิธีพูดผ่านทางโทรศัพท์ บอกพ่อว่าไม่ต้องห่วงอะไรนะ จะดูแลแม่อย่างดี รู้นะว่าหนูรักพ่อมาก แล้วพ่อตีสี่เศษๆ คุณพ่อก็จากไปอย่างสงบ
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วพ่อได้หยุดให้คีโมจากการรักษามะเร็งมา 3 เดือน หลังจากที่ก้อนมะเร็งที่ปอดมีขนาดเล็กลง แต่ปรากฏหมอตรวจพบว่าก้อนมะเร็งโตขึ้นและที่สำคัญคือมะเร็งกระจายไปจุดอื่นเพิ่ม
จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือต่อมหมวกไต เลยต้องกลับไปให้คีโมอีกครั้ง ซึ่งการให้คีโมครั้งนี้ทำให้พ่อแพ้หนัก ทำให้ทานอาหารไม่ได้ น้ำหนักตัวลดลงเหลือ 50 กิโลกรัมและต้องให้อาหารทางสายยาง"