Meta สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลก

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เชื่อมานานแล้วว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยงานยากในการกลั่นกรองโพสต์จากผู้ใช้หลายพันล้านคน ตอนนี้บริษัทแม่ Meta กำลังดำเนินการขั้นตอนที่สามารถขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่เข้าใจยากนั้นมากขึ้น นั่นคือการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องแรก

Meta ประกาศเปิดตัว AI Research SuperCluster (RSC) ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับโครงการวิจัย AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานมาสองปีแล้ว ในที่สุดอาจช่วยให้ Meta พัฒนาซอฟต์แวร์ AI ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์สำหรับงานที่ยุ่งยาก เช่น การระบุโพสต์ Hate Speech

ศุภโพ เสงคุปตะ (Shubho Sengupta) วิศวกรซอฟต์แวร์ของ Meta กล่าวว่า "ด้วย RSC เราสามารถฝึกโมเดล [AI] ที่ใช้สัญญาณหลายรูปแบบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เพื่อให้เข้าใจบริบทของโพสต์ รวมถึงภาษา ภาพ และโทน"

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งมีโปรเซสเซอร์ที่เชื่อมต่อถึงกันจำนวนมากรวมกันเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "โหนด" (Nodes) ที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสำหรับการวิจัย AI

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• Microsoft คว้า “บริษัทดีที่สุดแห่งปี” ส่วน Facebook (Meta) บริษัทแย่ที่สุด
• โรฮีนจายื่นฟ้อง Facebook 150,000 ล้านดอลลาร์ ไม่ควบคุมเนื้อหารุนแรง
• เปิดฟีเจอร์ใหม่ Twitter ตั้งรูปภาพโปรไฟล์ด้วย NFT

Today we’re introducing the AI Research SuperCluster (RSC), which we believe is among the fastest AI supercomputers running today — soon to be the fastest. RSC will help our researchers build better AI models and lay the groundwork for the metaverse.https://t.co/7uusYattq1 pic.twitter.com/LfixVFTrFu

— Meta Newsroom (@MetaNewsroom) January 24, 2022

การประชุมสุดยอดของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเร็วเป็นอันดับสองของโลก ในการช่วยในการตรวจสอบสิ่งต่างๆ เช่น โปรตีนที่ไม่คุ้นเคย บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สองสามแห่ง เช่น Microsoft และ Nvidia ต่างก็มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานของตนเองเช่นกัน

เสงคุปตะ กล่าวว่า ณ เดือนมกราคม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Meta ณ ตอนนี้มี GPU อยู่ 6,080 ตัว แบ่งออกเป็น 760 โหนด ซึ่งอาจทำให้มันเป็นหนึ่งในเครื่องที่ทรงพลังที่สุดในโลกในไซส์เดียวกัน และประสิทธิภาพพอกันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพิร์ลมุตเตอร์ (Perlmutter) ของศูนย์คอมพิวเตอร์วิทยาศาสตร์วิจัยพลังงานแห่งชาติ (National Energy Research Scientific Computing Center) ซึ่งอยู่ในอันดับที่ห้าของโลก

เมื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Meta ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในปลายปีนี้ อ้างว่าจะมี GPU มากถึง 16,000 ตัว และบริษัทคาดว่าจะสามารถประมวลผลได้เกือบ 5 เอ็กซฟลอปส์ (Exaflops) นั่นคือการทำงาน 5 ล้านล้านล้านล้าน (Quintillion) ต่อวินาที

"เมื่อสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ คลัสเตอร์จะมีขนาดเกือบสามเท่า ซึ่งจะทำให้เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลก ตามความรู้ของเรา" เสงคุปตะ กล่าว

Meta กล่าวว่า นักวิจัยได้เริ่มใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติและการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ และนักวิจัยจะสามารถใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อ "วิเคราะห์ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอร่วมกันได้อย่างลงตัว" และได้ผลลัพธ์ใหม่ เครื่องมือเติมความเป็นจริง เมื่อเวลาผ่านไป Meta หวังว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถ "สร้างระบบ AI ใหม่ทั้งหมด" ที่สามารถทำงานที่ยากในการคำนวณ เช่น การแปลแบบเรียลไทม์สำหรับกลุ่มคนจำนวนมากที่พูดภาษาต่างกัน

Meta กล่าวว่า การทดสอบในช่วงต้นแสดงให้เห็นว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ได้เร็วกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถึงสามเท่า นั่นหมายถึงโมเดล AI ที่ต้องใช้เวลาเก้าสัปดาห์ในการฝึกกับระบบที่มีอยู่เดิมสามารถฝึกได้ภายในสามสัปดาห์ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์

Meta หวังว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่จะสามารถฝึกโมเดล AI ด้วยพารามิเตอร์หลายล้านล้านตัวได้ ในท้ายที่สุด มีโมเดล AI เพียงไม่กี่รุ่นที่เป็นที่รู้จักในระดับนั้น นอกจากนี้ยังจะใหญ่กว่า GPT-3 หลายเท่าซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่จาก OpenAI ที่สามารถสร้างข้อความที่ฟังดูมนุษย์และใช้สำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การเรียนรู้ภาษาและซอฟต์แวร์ภาษีสำหรับฟรีแลนซ์

ในที่สุด Meta กล่าวว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะนำไปสู่เทคโนโลยีที่จำเป็นในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า "Metaverse" ซึ่งเป็นขอบเขตเสมือนจริงที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างกว้างขวางซึ่งผู้คนสามารถเดินไปมาภายในได้โดยใช้ภาพแทนตัวดิจิทัลและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นที่อยู่ที่นั่นด้วย Facebook วางตำแหน่ง Metaverse เป็นอนาคตของบริษัท แต่วันนี้ มีเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของวิสัยทัศน์เท่านั้นที่ได้รับการตระหนัก