นาตาลี เจียรวนนท์ เล่าวิธีเอาตัวรอด เมื่อติดโควิดในต่างแดน

การเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมหลายอย่าง ทั้งเรื่องเอกสาร เรื่องประกันต่างๆ แล้ว ยังต้องดูแลตัวเองอย่างดี เพื่อให้รอดพ้นจากเชื้อ

และแม้ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่ยังพลาดติดเชื้อโควิด-19 จนได้ จากเหตุนี้หลายๆคนอาจกังวลว่าอยู่ต่างแดนจะรักษาโควิดอย่างไร วันนี้ทาง "สปริงบันเทิง" จึงได้หยิบยกประสบการณ์ของ "นาตาลี เจียรวนนท์" ภรรยาของ "ฟลุค เกริกพล" ที่ได้ออกมาเล่าวิธีเอาตัวรอด เมื่อติดโควิดในต่างแดน 

ป้องกันอย่างดี ได้วัคซีนครบ 3 เข็ม แต่ก็ยังติดเชื้อโควิด

เรื่องราวของ "นาตาลี เจียรวนนท์" ทำเอาแฟนๆ ที่ทราบข่าวถึงกับตกใจไม่น้อย เมื่อเจ้าตัวได้แชร์ประสบการณ์ติดโควิด-19 พร้อมกับ "น้องนาตาชา" ลูกสาวตัวน้อย ขณะที่เดินทางไปเยี่ยมคุณทวดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงปลายปี 2564  

โดยนาตาลี เผยว่าตอนอยู่เมืองไทยเธอและสามีได้ฉีดวัคซีนโควิด ครบ 2 โดสแล้ว และพอเดินทางถึงอเมริกาก็ฉีดบู๊สเตอร์เข็ม 3 ทันที แต่หลังจากฉีดเข็ม 3 ได้เพียง 3 วัน เริ่มมีอาการปวดหัว เหนื่อยง่าย เพลียทั้งวัน จึงทำการตรวจ ATK พบว่าเธอติดเชื้อโควิด จึงแยกออกมากักตัว

ซึ่งไม่รู้ว่าติดตอนไหน ติดได้ยังไง เพราะเธอระวังที่สุด ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี พร้อมยอมรับว่าเธอเป็นคนที่นอยด์และกลัวโควิดมาก กลัวว่าจะมาติดลูก เพราะลูกยังไม่สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• พิ้งค์กี้ สาวิกา ยุคที่ดาราไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบ ปรับตัวคือทางรอดเท่านั้น

• วันครูแห่งชาติ "6 คนดัง" เบื้องหน้าสร้างสุข เบื้องหลังสร้างคน

• รู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพ จากประสบการณ์ตรง "ไมค์ พิรัชต์"

ใจสลายเมื่อรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยติดเชื้อโควิดด้วย

อาการเริ่มแรกที่ติดโควิด ปวดหัวและเหนื่อย เริ่มไอแห้งๆ เจ็บคอ และไม่มีไข้ แต่อาการมาหนักขึ้น เมื่อลูกสาวต้องไปโรงพยาบาลและรู้ว่าเป็นโควิดตามแม่ วันนั้นนาตาลีจึงอาการหนักมาก ทั้งเจ็บคอ มีเสมหะ และไอมากขึ้น

โดยช่วงนั้นไม่ได้นอน เครียดเพราะห่วงลูก พอรู้ว่าอาการตัวเองหนัก เธอจึงเริ่มนอนยาวๆ เพื่อให้ร่างกายได้พัก หลังจากนั้นไม่มีไข้ ไอแห้งมาก แต่จะเหนื่อยหอบมากถ้าเดิน โดยอาการป่วยมีอยู่ 5 วัน จากนั้นก็ค่อยๆ ดีขึ้น และหายป่วยโควิดประมาณ 2-3 อาทิตย์ ถึงจะเริ่มหายเหนื่อยกลับมาเป็นปกติ

อยู่เมืองนอกไม่มีที่รักษา ต้องดูแลตัวเอง

สำหรับการรักษาโควิดที่สหรัฐอเมริกากับที่เมืองไทยต่างกันมาก เพราะที่นี่หาโรงพยาบาลยากมาก ต้องรักษาตัวตามอาการที่บ้านเหมือนไข้หวัด นอกจากจะเป็นหนักจึงค่อยเรียกรถพยาบาลไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

แต่ถ้าไม่ได้หนัก ทุกโรงพยาบาลจะถามก่อนว่ามีประกันหรือเปล่า รักษากับหมอคนไหนมา ถ้าไม่ได้รักษากับเขา เขาก็ไม่ให้คำปรึกษา จะให้คำปรึกษาเฉพาะลูกค้าที่มารักษากับเขาเท่านั้น เพราะหมอทุกคนมีลูกค้าเต็ม

ดูแลตัวเองทุกอย่าง จนหายดีเป็นปกติ

การอยู่ที่อเมริกาต้องไปซื้อยาเอง ไม่มีใครช่วย เพราะไม่มีหมอประจำตัว ถ้าเป็นหนักก็โทรเข้า 911 และหลังจากที่ลูกสาวเป็น พี่เลี้ยงก็ติดโควิดด้วย โดยตอนที่ลูกป่วย ไม่มียาอะไรเลย นอกจากยาลดไข้ ต้องไปหาซื้อยาเอง ช่วงนั้นวัดไข้ลูกเรื่อยๆ เช็ดตัวเรื่อยๆ ให้ยาลดไข้ ยาสมุนไพร และฉีดจมูกด้วยน้ำเกลือเพื่อล้างจมูก แต่หลังจากนั้น 3-4 วันอาการก็เริ่มดีขึ้น

สำหรับการเป็นโควิดในเด็กเล็กที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ หลังจากหายป่วย 1-3 เดือน ภูมิคุ้มกันในตัวจะสูงมาก ด้วยความที่เธอเก็บตัวลูกให้อยู่แต่ในบ้านมานาน ตั้งแต่เกิดก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่พอมาอเมริกาและติดโควิดกันแล้ว เลยตัดสินใจใช้ช่วงเวลานี้ที่ลูกยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ พาเขาไปเที่ยว ไปเปิดโลกกว้าง แต่ยังคงระมัดระวังตัว และการ์ดไม่ตกเหมือนเดิม