อองซาน ซูจี ถูกตัดสินโทษคุกเพิ่มอีก 4 ปี

อองซาน ซูจี วัย 76 ปี ที่ปรึกษาของรัฐเมียนมาร์และเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของประเทศ ถูกตัดสินจำคุกอีก 4 ปี ซึ่งเป็นการตัดสินรอบที่สองของผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หลังจากทหารเข้าทำการยึดอำนาจเมื่อ 11 เดือนที่แล้ว

อองซาน ซูจี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในหลายข้อหาเกือบ 12 กระทง ซึ่งรวมถึงการครอบครองเครื่องส่งรับวิทยุที่ไม่มีใบอนุญาต ข้อหาคอร์รัปชั่นหลายข้อหา ซึ่งแต่ละโทษมีผลจำคุกสูงสุด 15 ปี ฝ่าฝืนข้อจำกัดการระบาดของโควิด-19 ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปี 2020 การยุยง การนำเข้าและครอบครองเครื่องส่งรับวิทยุอย่างผิดกฎหมาย และการละเมิดพระราชบัญญัติความลับทางการในยุคอาณานิคม ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี รวมกันเป็นโทษสูงสุดรวมกันมากกว่า 100 ปี

ทว่า อองซาน ซูจี  ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และผู้สนับสนุนของเธอกล่าวว่าข้อกล่าวหาของเธอเป็นเรื่องการเมือง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• นางอองซาน ซูจี ถูกศาลสั่งจำคุก 4 ปี หลังวิจารณ์คณะเผด็จการทหาร
• สหประชาชาติร่วมร้องขอให้กองทัพเมียนมาร์ปล่อยตัว "อองซาน ซูจี"
• จับ 2 เมียนมา ถูกพ่อค้าอาวุธในไทยจ้างวาน คิดลอบสังหารทูต U.N. ที่เคยชู 3 นิ้ว

โทษจำคุกที่เพิ่งตัดสินออกมาในวันจันทร์นี้ ประกอบด้วยโทษจำคุก 2 ปี ฐานละเมิดกฎหมายส่งออกและนำเข้าของเมียนมาร์ด้วยการครอบครองเครื่องส่งรับวิทยุ และ 1 ปีในข้อหาละเมิดกฎหมายการสื่อสาร ทั้งสองประโยคจะทำงานพร้อมกัน

นอกจากนี้ อองซาน ซูจี ยังถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ฐานละเมิดกฎหมายการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งถือว่าละเมิดกฎของโควิด-19

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ศาลซาบูทิริ (Zabutiri) ในกรุงเนปิดอว์ในขั้นต้นได้พิพากษาจำคุก อองซาน ซูจี 4 ปี หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและสองปีหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในมาตรา 25 ของกฎหมายการจัดการภัยพิบัติ

ต่อมาในวันนั้นทหารลดโทษจำคุกสี่ปีเหลือสองปี กองทัพยังลดโทษจำคุก 4 ปีของประธานาธิบดีวิน มี้นต์ ของเมียนมาร์ลงครึ่งหนึ่งด้วย

รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาร์ได้พยายามจำกัดข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีซึ่งปิดไม่ให้สาธารณชนเข้าชม ในเดือนตุลาคม ทีมกฎหมายของเธอได้ออกคำสั่งปิดปากซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถพูดกับสื่อได้

ในคำแถลง "ฟิล โรเบิร์ตสัน" (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า "คณะละครสัตว์ในห้องพิจารณาคดีของรัฐบาลทหารเมียนมาร์ในการดำเนินคดีอย่างลับๆ ในข้อหาหลอกลวง ล้วนเกี่ยวกับการเพิ่มความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องต่ออองซานซูจี เพื่อที่เธอจะได้อยู่ใน ติดคุกไม่มีกำหนด"

"เห็นได้ชัดว่า พล.อ.มิน ออง หล่าย และผู้นำรัฐบาลทหารยังคงมองว่าเธอเป็นภัยคุกคามทางการเมืองที่สำคัญยิ่ง ซึ่งจำเป็นต้องถูกทำให้เป็นกลางอย่างถาวร มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายความเต็มใจของรัฐบาลทหารที่จะปรากฏเป็นเสียงหัวเราะทั่วโลก เมื่อพวกเขาได้รับโทษในศาลจิงโจ้ในศาล ข้อหาที่บอบบางที่สุดและมีแรงจูงใจทางการเมือง" โรเบิร์ตสัน กล่าว