ต้นสังกัดยืนยัน ลูกหนัง ศีตลา ไม่ถูกปลดจากเดบิวต์ไลน์อัพวง H1-KEY

กลายเป็นเรื่องร้อนแรงขึ้นมาทันที เมื่อ ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวคนสุดท้องของ ตั้ว ศรัณยู และ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ได้เป็นหนึ่งในเดบิวต์ไลน์ของวง H1-KEY รุกกี้น้องใหม่ของวงการ K-POP ที่เตรียมมีผลงานในวันที่ 5 ม.ค. 65 ที่จะถึงนี้ แต่กลับต้องมีดราม่า เมื่อชาวเน็ตหลายคนไม่ยินดีและพร้อมติดแฮชแท็ก #แบนSITALA อย่างร้อนแรง พร้อมกับเรียกร้องให้ต้นสังกัดพิจารณาการปลดออกจากวง เนื่องจากการกระทำในอดีตของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นการอ้างถึงเรื่องการเมือง เมื่อครั้งที่พ่อของเธอร่วมเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส.

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• ลูกหนัง ศีตลา ลูกสาวตั้ว ศรัณยู เตรียมเดบิวต์เกาหลี แค่เปิดตัวก็ดราม่า?

• H1-KEY ไอดอลเกาหลีวงใหม่ เตรียมเดบิวต์ปี 2022 อดีตเด็กฝึกค่ายยักษ์และคนไทย

• “ลูกหนัง ศีตลา” โกอินเตอร์แดนกิมจิ!!!

 

โดยล่าสุด Grand Line Group หรือ GLG ต้นสังกัด ได้ออกแถลงการณ์พิเศษถึงปัญหาต่อต้านที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่จับตามองจากบรรดาแฟนคลับศิลปินเกาหลี ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ยังรวมไปถึงแฟนคลับต่างประเทศอีกด้วย

ซึ่งเนื้อหาในแถลงการณ์ของค่าย GLG ได้ระบุว่า กระแสการต่อต้านต่างๆ มาจากการกระทำของบิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ของ ลูกหนัง ศีตลา เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ซับซ้อนจึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หลังจากการตรวจสอบแล้วได้ข้อสรุปว่า ณ เวลานี้ ลูกหนังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพียงเพราะบิดาเธอเคยทำเรื่องที่ผิด และจะเป็นเรื่องสุดโต่งเกินไป หากจะให้ ลูกหนัง ศีตลา รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เธอไม่มีบทบาท ดังนั้นด้วยเหตุนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกใน H1-KEY

พร้อมทั้งยืนยันถึงคำว่า โรลโมเดล ที่ ลูกหนัง ศีตลา พูด หมายถึงแบบอย่างในเรื่องการเป็นนักแสดงและผู้กำกับ ไม่ใช่เพราะเรื่องทางการเมือง

และนี่คือแถลงการณ์จาก Grand Line Group

 

“สวัสดี นี่คือ GLG เอเจนซี่ของ H1-KEY

ประการแรก เราต้องขอก้มศีรษะเพื่อขอโทษทุกคน ที่อาจได้รับความรู้สึกบาดเจ็บและขุ่นเคืองจากเหตุการณ์ล่าสุด เราปรารถนาสันติภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชาติไทย

เราขอกล่าวว่า เนื่องจากความซับซ้อนของปัญหานี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ศีตลา สมาชิก H1-KEY และบิดาผู้ล่วงลับของเธอ เคยมีส่วนร่วมของบิดาผู้ล่วงลับในกิจการต่างๆ เช่น การเมือง รัฐบาล เศรษฐกิจ และสังคมไทย จึงต้องใช้เวลา หน่วยงานที่จะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วนและเราระมัดระวังในการจัดการกับเรื่องนี้

และหลังจากที่เราได้รับข้อทราบกังวลจากแฟนๆชาวไทย เกี่ยวกับปัญหานี้ เราก็เริ่มตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับบิดาผู้ล่วงลับของ ศีตลา และการกระทำในอดีตของเขา รวมถึงอิทธิพลที่เขาอาจมีต่อตัว ศีตลา ในตอนที่เจ้าตัวยังเยาว์วัย เป็นต้น หลังจากตรวจสอบรายละเอียดแล้ว เราพิจารณาแล้วว่า กรณีนี้ทำให้ ศีตลา อยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเพียงเพราะการกระทำของบิดาผู้ล่วงลับของเธอคงเป็นเรื่องที่ผิด หน่วยงานเชื่อว่า มันคงสุดโต่งที่จะให้ ศีตลา รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เธอไม่มีบทบาท ดังนั้นด้วยเหตุนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกใน H1-KEY

นอกเหนือไปจากนั้น เราขอชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า ศีตลา เลือกบิดา ของเธอเป็นแบบอย่าง เพราะเขาประกอบอาชีพนักแสดงและผู้กำกับ ที่น่าเคารพนับถือมาเป็นเวลานานในด้านศิลปะ ไม่ใช่เพราะกิจกรรมทางการเมืองของเขา

ปัจจุบัน ศีตลา กำลังไตร่ตรองถึงตัวเองในขณะที่มีปัญหากับปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เธอยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงของบรรยากาศการเมืองไทยอีกด้วย ศีตลา ที่เรารู้จักในสังกัดของเราเป็นคนที่มีความภักดีและมีมารยาทที่ดี เธอรักบ้านเกิดเมืองนอนและภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยและคนไทย

เธอกล่าวเสมอว่าแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งสำหรับความสำเร็จของเธอคือการทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกมากขึ้น และเพื่อนำความอบอุ่นมาสู่ประชาชนชาวไทย เธอใช้ความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเติมเต็มความฝันอันแรงกล้าของเธอ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเชียร์ ศีลตา เพื่อไม่ให้ความพยายามของเธอสูญเปล่า

สุดท้ายนี้ GLG ยังให้คำมั่นว่าจะระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องความกังวลของแฟนๆ K-Pop ทั้งในและต่างประเทศ

และขอย้ำอีกครั้งเราหวังสันติภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในประเทศไทย”

 

ซึ่งหลังจากที่ค่ายต้นสังกัด GLG ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว ส่งผลในตอนนี้แฮชแท็ก #แบนSITALA ขึ้นอันดับหนึ่งอีกครั้ง โดยหลายความเห็นยืนยัน หากค่ายเลือกแบบนี้การแบนก็เป็นเรื่องของแฟนคลับเช่นกัน พร้อมให้เหตุผลว่า หากเป็นกรณีศิลปินเกาหลีคนอื่น ข่าวโคมลอย ข่าวเท็จ ยังถอดออกจากวง หรือมีการสั่งพักงาน แต่กรณีนี้มีหลักฐานกลับไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง

 

ที่มา allkpop