จีน ยกสถานะ สี จิ้นผิง เทียบเท่า เหมา เจ๋อตง-เติ้ง เสี่ยวผิง ปูทางครองอำนาจยาว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า มติว่าด้วยผลงานและประสบการณ์เชิงประวัติศาสตร์ของพรรคอมมิวนิสต์จีน ได้ผ่านการรับรองระหว่างการประชุมของคณะกรรมการกลางพรรคคอมนิวนิสต์ โดยคาดว่า แถลงการณ์ประวัติศาสตร์ฉบับนี้ จะเน้นย้ำความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ในการบริหารเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 
.
นอกจากนี้ การรับรองมตินี้ มีขึ้นเพื่อ การ ยกสถานะของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้เทียบเท่ากับบุคคลสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสองท่าน คือ ประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งพรรค และ เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้ปฏิรูปจีนให้กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จีนที่ย้อนแย้งกับท่าทีสับสนในนโยบายสิ่งแวดล้อม ที่ขัดแย้งกันเอง
• ประเทศจีนปันส่วนน้ำมันดีเซลท่ามกลางวิกฤตการขาดแคลนเชื้อเพลิง
• ก๊าซเรือนกระจกกำลังจะแตะสถิติสูงสุดแซงปี2020แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราห์ มองว่า มติในเรื่องนี้เป็นความพยายามล่าสุดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะหวนคืนแนวทางการปกครองแบบกระจายอำนาจที่เริ่มตั้งแต่ยุค เติ้ง เสี่ยวผิง  กลับสู่การปกครองแบบ ลัทธิบูชาบุคคล (cult of personality)

 รูปภาพโดย getty images 

ทั้งนี้ นี่เป็นการประชุมกันครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ชุดที่ 19  ก่อนจะถึงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในปีหน้า ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 คนแรกของจีน หลังจากเมื่อปี 2018  ประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนกฏเกณฑ์ ยกเลิกห้ามประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 สมัย ซึ่งถือเป็นการเปิดเส้นทาง ให้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ครองอำนาจไปตลอดชีวิต
.
ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกนำเสนออย่างยิ่งใหญ่ผ่านการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อของสื่อของทางการจีน ที่โหมประโคมความสำเร็จของผู้นำจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี โครงการด้านอวกาศ และการรับมือการระบาดของโควิด-19