หมอธีระ เผยข้อมูล ACIP ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโรค และความปลอดภัย ควรให้ "วัคซีนไฟเซอร์" ขนาด 10 ไมโครกรัม กับเด็กอายุ ระหว่าง 5-11 ปี 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) ประเด็น เกี่ยวกับการให้วัคซีนในเด็ก 5-11 ปี โดยระบุว่า
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ Advisory committee on immunization practice (ACIP) ซึ่งเป็นคณะกรรมการวิชาการภายนอกของ US CDC ได้ทำการพิจารณาเรื่องวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี
ผลโหวตชัดเจน 14:0
โดยได้พิจารณาข้อมูลวิชาการอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ความปลอดภัย ประโยชน์ต่อตัวบุคคลและสังคม
มีมติว่าควรให้ วัคซีนไฟเซอร์/Biontech ขนาด 10 ไมโครกรัม (ขนาดต่ำกว่าผู้ใหญ่ 1/3) 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
ทั้งนี้มีข้อมูลหลายอย่างที่น่าสนใจและนำมานำเสนอในที่ประชุม เช่น การเปรียบเทียบให้เห็นอัตราการนอนโรงพยาบาล และอัตราการตายจากโรคอื่นๆ ที่เป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เปรียบเทียบกับโรคโควิด-19 ดังภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "หมอธีระ" เผย "โควิดเดลต้าพลัส" แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าเดลต้าเดิม 17%
• "หมอธีระ" แนะลงทุนขยายจุดบริการตรวจ RT-PCR ให้ครอบคลุม ลดบทบาทของ ATK
• "หมอธีระ" เตือน "เปิดประเทศ" หากพลาดมาอาจเจ็บสาหัสและส่งผลกระทบยาวนาน
ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ จากการที่เด็กๆ ต้องติดโรคโควิด-19 เช่น เกิดอาการคงค้างที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Long COVID, การต้องหยุดเรียน การติดเชื้อแพร่เชื้อภายในครอบครัวจนทำให้สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต รวมถึงผลกระทบด้านอื่นๆ อีกมาก
ผ่านขั้นตอนของ ACIP ไปแล้ว จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ US CDC เพื่อนำไปสู่การประกาศนโยบายเพื่อใช้ในอเมริกา ซึ่งคาดว่าคงจะใช้เวลาถัดจากนี้ไปอีกไม่กี่วัน
ทั้งนี้ขนาดของวัคซีนที่ใช้ในเด็กเล็กนั้นจะน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยให้เหตุผลคือปรับตามระดับวุฒิภาวะ (maturity) ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ได้ปรับตามส่วนสูงหรือน้ำหนักแบบยาทั่วไป
ประเทศไทยคงต้องมีการติดตามข้อมูล และปรับนโยบายวัคซีน ระบบการจัดซื้อจัดหา เพื่อให้ได้วัคซีนสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นที่ยอมรับของสากล
ด้วยรักและห่วงใย
อ้างอิง
ACIP Presentation Slides: November 2-3, 2021 Meeting. US CDC