หมอธีระ เตือนไทยยังเสี่ยงเกินไปที่จะเปิดประเทศ หากพลาดอาจส่งผลกระทบระยะยาว พร้อมยกตัวอย่าง สิงคโปร์ เจอการระบาดซ้ำที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม แม้ประชากรฉีดวัคซีนแล้ว 80%
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) โดยระบุว่า..
ด้วยความซับซ้อนของระบบสังคมที่เป็นอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดที่ยังรุนแรงต่อเนื่องดังที่เห็นในปัจจุบัน
ทิศทางนโยบายที่มุ่งหน้าไปสู่การเปิดท่องเที่ยว เปิดประเทศ โดยที่มีโรคระบาดในพื้นที่ และระบบสนับสนุนที่จำเป็นยังมีข้อจำกัด ทั้งการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองโรคมาตรฐาน การใช้วิธีตรวจทางเลือก (ATK) ที่อาจมีความไวไม่มากนักและเสี่ยงต่อการเกิดผลลบปลอมได้ รวมถึงเรื่องวัคซีน ทั้งเรื่องชนิดที่ใช้ และปริมาณที่ยังไม่เพียงพอหรือครอบคลุม
ความเสี่ยงต่อการระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นย่อมมีสูง ดังจะเห็นได้จากหลากหลายพื้นที่ที่กำลังเผชิญอยู่
ปัจจัยข้างต้นจะนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ หากการระบาดเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรงขึ้น และจะนำไปสู่ผลกระทบทุกมิติ ทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม
สิ่งที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดคือ ทั่วโลกขณะนี้มีการระบาดที่ชะลอตัวลงชัดเจน แต่จะเห็นได้ว่าประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ที่ได้เรียนรู้จากสงครามนี้มาเกือบสองปี มักจะเลือกตาเดินแบบระมัดระวังในการเปิดใช้ชีวิตและเปิดประเทศ โดยเน้นให้จัดการควบคุมโรคให้มีจำนวนการติดเชื้อลดลงให้ได้ และเน้นการใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง และฉีดให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ในสังคมเสียก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เช็กเลย! หลังฉีดวัคซีนแล้ว "เกิดอาการไม่พึงประสงค์" ยื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปี
• โควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 12,709 ราย สะสม 1,489,186 ราย เสียชีวิต 106 ราย
• ผู้โดยสารเขียนข้อความถึงคนขับแท็กซี่ ยอมรับขึ้นรถทั้งๆ ที่เสี่ยงโควิด19
บางประเทศฉีดครอบคลุมไปนานกว่า 6 เดือนก็เจอระบาดซ้ำจนต้องมาฉีดเข็มกระตุ้นซ้ำเพราะความรู้ปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าระดับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงตามเวลาที่ผ่านไป หลังฉีดกระตุ้นก็พบว่าสามารถคุมโรคระบาดได้ดีขึ้นชัดเจน เช่น อิสราเอล สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์
จะมีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่พยายามประกาศว่าจะใช้ชีวิตท่ามกลางโรคระบาด หรือ Living with COVID-19 เช่น สิงคโปร์ ไทย เป็นต้น โดยล่าสุดก็เห็นชัดเจนว่าสิงคโปร์ประสบการระบาดซ้ำที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก แม้ได้รับวัคซีนกันไปกว่า 80% ของประชากรก็ตาม
หันมามองไทยเรา จำเป็นต้องประเมินและยอมรับความจริงว่า หลายเรื่องยังไม่พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ระบาดที่เป็นหลักหมื่นเช่นนี้ และเรื่องวัคซีนที่ไม่เพียงพอไม่ครอบคลุม จึงเสี่ยงเกินไปที่จะเปิดเมือง เปิดประเทศ
ตาเดินนี้ หากเดินพลาดจะมีโอกาสส่งผลกระทบยาวนานและหนักหนาสาหัส
สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก
ด้วยรักและห่วงใย