7 วิธีทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สวมใส่ ให้ปลอดภัยและห่างไกลจากเชื้อโควิด-19 ชี้หากใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ควรเลือกใช้บริการในช่วงที่คนใช้น้อย หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การสวมเสื้อผ้าซ้ำ การอยู่ในบ้านที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น แออัด หรือพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้มีโอกาสที่เชื้อโควิด-19 จะเกาะติดอยู่ตามพื้นผิวเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับได้ โดยเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่บนผ้าได้นานถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ประเภทของพื้นผิว อุณหภูมิ และความชื้นสัมพันธ์ เป็นต้น
เมื่อกลับถึงบ้านจึงควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่โดยทันที ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วให้ซักทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อโควิด-19 จะมีกระเปาะหุ้มตัวเอง การซักผ้าด้วยผงซักฟอกจะไปทำลายกระเปาะหุ้มตัวนี้ได้ เมื่อไม่มีกระเปาะหุ้มตัวเชื้อโควิด-19 ก็จะตาย ดังนั้น เชื้อโควิด-19 ที่เกาะตามเสื้อผ้าสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผงซักฟอก เช่นเดียวกันกับการล้างมือที่ใช้เพียงสบู่ธรรมดาก็กำจัดเชื้อไวรัสบนมือได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ลดลงต่อเนื่อง! โควิดวันนี้ เสียชีวิต 44 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 8,675 ราย
• "หมอธีระ" เผย "โควิดเดลต้าพลัส" แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าเดลต้าเดิม 17%
• เชียงใหม่อ่วม! โควิดระบาดในครอบครัว 108 ราย ปกปิดข้อมูลจัดปาร์ตี้-สาวเอ็น
การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1. เสื้อผ้าหรือหน้ากากผ้าที่ใช้แล้ว หากยังไม่ได้ซักทันทีควรนำไปแขวนผึ่งก่อนใส่ตะกร้าผ้าเพื่อรอการซัก
2. หลีกเลี่ยงการสะบัดเสื้อผ้าในบ้าน เพื่อลดโอกาสฟุ้งกระจายของเชื้อโรค ที่อาจปนเปื้อน
3. หยิบเสื้อผ้าออกจากตะกร้า โดยทำให้ตัวเราสัมผัสเสื้อผ้าในตะกร้าให้น้อยที่สุด
4. ใส่น้ำยาซักผ้า และกดปุ่มเครื่องซักผ้าให้ทำงานตามปกติ
5. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากนำเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันการนำมือสกปรกมาสัมผัสใบหน้า หรือไปสัมผัสสิ่งอื่น
6. นำไปตากแดดจัด หรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ
7. เช็ดทำความสะอาดถังหรือตะกร้าใส่เสื้อผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นประจำ
ทั้งนี้หากไม่มีเครื่องซักผ้าส่วนตัว และจำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ให้บริการตามหอพัก แหล่งชุมชนต่างๆ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ บริเวณเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เป็นจุดสัมผัสร่วมกัน เช่น ช่องใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ปุ่มกดเลือกโปรแกรมซักผ้า ฝาปิดเครื่องซักผ้า เป็นต้น ผู้ดูแลจึงต้องทำความสะอาดให้บ่อยขึ้นกว่าเดิม หรือทุก ๆ 1 - 2 ชั่วโมง สำหรับผู้ใช้ควรเลือกใช้บริการในช่วงที่คนใช้น้อย รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า และ เมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทันที