"ธรรมนัส " ซัดกลับ เผย ไอ้ห้อยไอ้โหนมาจากฝ่ายรัฐบาล ปมล้มนายกฯ ยันไม่จริง ปัดคิดนั่งเก้าอี้นายกฯ ย้อนถามพูดตอนไหน ลั่น หากตนยังเป็นแกนนำ หรือ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายไม่ได้ลงสมัยหน้า
1 ก.ย.64 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวแรงขย่มภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องที่พูดกัน 2-3 วันที่ผ่านมา ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยสนใจ ใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ ตนพูดเสมอว่ามาถึงทุกวันนี้ จากลูกชาวนาเด็กบ้านนอกจนๆ มาถึงเวลานี้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ตนถือว่าชีวิตตนสูงสุดแล้ว ส่วนที่เหลือหากตอนนี้โอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง รับใช้แผ่นดินและประชาชนก็จะทำให้ดีที่สุด 2 ปีที่ผ่านมาตนทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ดังนั้นการจะมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ในรัฐบาลและครม.เดียวกันไม่ใช่พฤติกรรมของตน เมื่อย้อนไปการประชุมพรรคที่จังหวัดขอนแก่นในการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ตนเคยยืนยันว่าจะนำพาพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งเป็นที่พึ่งของประชาชน และจะทำต่อไปหากยังมีโอกาส ดังนั้นข่าวลือว่าตนจะทำนู่นนี่ไม่จริง มีแต่ข่าวที่ตนได้ยินขณะที่ตนไปตรวจราชการ จ. พระนครศรีอยุธยา มีส.ส.หลายคนโทรหาตนว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กคนหนึ่ง เสนอรับเงินเป็นผลต่างตอบแทน 10 ล้านบาท ตนได้ยินมาตลอด และที่ยิ่งร้ายไปกว่านั้น มีรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ รับงานมาล็อบบี้ส.ส.เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ ในการโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ตนขอถามว่าในการเป็นรัฐมนตรีสมควรทำเช่นนั้นหรือไม่ ควรเห็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ไม่ต้องใครคนที่ว่า 4 ช. ฝากไปบอกเขาด้วยว่าทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง อย่าเห็นประโยชน์ส่วนตัวนี่เป็นคำตอบของตน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ธรรมนัส" เผย เคี้ยว "ใบกระท่อม" ทำงานไม่ปวดเมื่อย ต้มน้ำดื่มแก้ไข้หวัดได้
"บิ๊กป้อม" จัดทัพ ส.ส.พปชร. ส่ง "ธรรมนัส" ลุยช่วยเหลือปชช.ในพื้นที่แดงเข้ม
ธรรมนัส ค้านซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ลั่นโควิดยังวิกฤต ชี้ ต้องใช้งบแก้ปัญหาโควิด
เมื่อถามถึงกรณีมีการโยงชื่อ ร้อยเอกธรรมนัส หนึ่งในขบวนการล้มนายก ผ่านการโหวตคว่ำในสภา ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติชัดเจน เสียงหนึ่งเสียงของส.ส. คือเสียงของประชาชน ดังนั้นจึงต้องรู้จักคิด แล้วรู้จักทำว่าจะทำอย่างไร เราไม่สามารถไปครอบงำเขาได้ มติพรรคจะให้ทำอะไร ก็ไม่ได้เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่มีอย่างนั้น ใครมาถามตน ตนก็บอกว่า ให้ดูเอาแล้วตัดสินใจเอง ตนไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใคร ไม่ว่าจะให้ช่วยรัฐบาลหรือไประดมพรรค อื่นให้มาช่วยในการโหวตคว่ำใครคนใดคนหนึ่งตนไม่ทำ
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าร้อยเอกธรรมนัสไม่ได้อยู่ในขบวนการ 4 ช. ใช่หรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ให้ดูเมื่อวานตนเข้าสภามากี่โมง เมื่อเข้ามา ก็มีพี่น้องจากพรรคเพื่อไทย เข้ามาสวัสดีขอถ่ายรูปกับตน คนเข้าไปในห้องประชุมสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ก็ดึงแขนไปบอกอยากคุยเรื่อสปก. พี่น้องพรรคเล็กพรรคน้อยก็มาคุยกับตนเป็นปกติ ที่ตนทักทายกันแบบนี้ ตนไม่เคยคิด และไม่เคยปฏิบัติว่าต่างพรรคต่างความคิด จะต้องเป็นศรัตรูกับตน แม้กระทั่งตนถูกกระทำอย่างไร ตนไม่เคยโทษ เพราะสิ่งเหล่านั้นตนพูดกับตัวเองไว้เสมอว่าควรนำมาปรับปรุงตนเอง เขาจะด่าเราอย่างไร ตนถามกลับว่าในครม.ใครโดนหนักเท่าตนบ้าง ไม่กี่วันที่ผ่านมามีม็อบบุกไปที่บ้านใครโดนเหมือนตนบ้าง แล้วเคยได้ยินหรือไม่ว่าตนบ่นหรือแหกปากสักคำ ตนไม่ใช่เป็นสัตว์ประเภทว่าเหยียบหางหน่อยแล้วแหกปาก ไม่ใช่ตน
เมื่อถามย้ำว่ายอมรับหรือไม่ว่ามีขบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ขบวนการนั้นมีหรือไม่มี ต้องไปถามคนเต้าข่าว ว่าต้องการอะไร เป็นคนเต้าข่าวไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านแต่เป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล ไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายชอบเลียแข้งเลียขา สำเหนียกซะบ้าง
ขณะที่จัดการกับไอ้ห้อยไอ้โหนนี้อย่างไร ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ตนรู้หมด บางคนตนบันทึกเทปไว้หมดแล้ว ขอให้ระวังเดี๋ยวเจอกัน
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างร้อยเอกธรรมนัสกับนายกรัฐมนตรี ยังคงพูดคุยกันตามปกติหรือไม่นั้นร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ถ้าจะถามอย่างนี้ตนขอถามกลับไปถึงท่านห้อยท่านโหน ในหลายๆคน ทำเหมือนตนหรือไม่ นำนโยบายของนายกรัฐมนตรี และนำนโยบายของรัฐบาลไปให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และชาติบ้านเมือง ทำบ้างหรือไม่ มัวแต่ห้อยแต่โหน แล้วอย่างนี้ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร
ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัสยืนยันว่า ตนพูดเสมอว่าตนไม่โกรธใคร ไม่แค้นใคร แต่ตนจำนาน และผู้ร่วมอุดมการณ์ตนมาก
ส่วนจะต้องทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีไม่พอใจกับกระแสข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้น ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่าตนไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี แต่คุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพูดตลอดเวลาและพูดในครมได้ว่า จะคุยเฉพาะหัวหน้าพรรค เราเป็นลูกพรรค ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคจะต้องคุยกับหัวหน้าพรรค พร้อมกับถามกลับว่ามีวันใดที่ตนไม่ได้กินข้าวกับหัวหน้าพรรค ตนคุยทุกวัน และในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564ที่ผ่านมา ขอถามทุกคนเลยว่า ต้นพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขามท. 1 ได้ยินจากปากตนหรือไม่ ตนจับไมค์พูดต่อหน้าคนจะ 60-70 คน ผมบอกว่าสสพรรคอื่นอัดในหลายๆเรื่อง และต้นบอกว่ารัฐมนตรีที่นั่งอยู่ตรงนี้ มีผลงานมีผลงานให้ส.ส.ไปบอกชาวบ้าน ว่าเป็นผลงานของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เป็นส.ส.เกือบ 3 ปีต้องถามว่าทำอะไรให้กับชาวบ้านบ้าง ส.ส.ก็ตอบว่าไม่มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว คนเป็นตัวแทนของประชาชนหากไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ก็อย่าเป็นเลยสส แล้วถ้าไม่เคลียร์ตัวผมเอง พร้อมกลับไปเป็นสว.อย่างเดียว ตนไม่ได้สนใจ
เมื่อถามต่อว่าส่วนตัวอย่างเคยคิดอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ตนบอกว่าตนไม่เคยใส่ใจตำแหน่งหน้าที่ จะอยู่ในสถานะใด แม้เป็นนายธรรมนัสพรหมเผ่า เป็นประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ตนทำอะไรเพื่อคนไทยบ้าง ทำอะไรเพื่อคนพะเยาและคนภาคเหนือบ้าง ไม่จำเป็นทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจสั่งสมองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนทุกอย่างเป็นกระแสข่าวสกัดดาวรุ่งหรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า อย่ากดดันกันมาก ตนมาจากประชาชน เมื่อถามที่บอกว่าจำนานจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นหรือไม่ ตนเป็นคนอย่างนี้คือตำนาน และจำดี ไม่ใช่แก้แค้น ถ้าเขาเหล่านั้นไม่แก้ไข ก็จะถูกประชาชนลงโทษเอง ตนบอกได้เลยว่าพรรคพลังประชารัฐหากตนยังเป็นแกนนำส.ส. ที่เป็นไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลาย ไม่ได้ลงหรอกสมัยหน้า