จัดหนัก จัดเต็มกันตั้งแต่วันแรก สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ บิ๊กตู่ และ 5 รัฐมนตรี SpringNews จัดสรรข้อมูลเด็ดประจำวัน มวยคู่เอก ส.ส.ที่ถูกประท้วงมากที่สุด ฯลฯ มานำเสนอ
ระฆังยกที่ 1 ของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ดังขึ้นแล้ว เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งก็ดุเดือดตั้งแต่วันแรก มีประเด็นใดที่น่าสนใจเป็นไฮไลต์บ้าง ? SpringNews ขอนำมาสรุปให้ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลเด็ดประจำวัน : การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค
ผู้อภิปราย : ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
หลังจาก นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้อ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีรายบุคคล ซึ่งประกอบด้วย
1.1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
1.2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
1.3 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
1.4 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
1.5 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1.6 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เต้ พระราม 7" ซัด รัฐบาลทุจริตลักลอบขนแรงงาน-ปล่อยคนกลับบ้านแพร่โควิด
“เสรีพิศุทธ์” ย้ำ มาไล่ “ประยุทธ์” ลงจากตำแหน่ง เพราะพฤติกรรมไม่เหมาะสม
เพื่อไทยแฉ หลักฐานเด็ด รัฐบาลกีดกัน Covax พบส่วนต่าง ซิโนแวค กว่า 2 พันล้าน!
ลำดับต่อมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ขยี้แผลบิ๊กตู่ กับนายอนุทิน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่ซื้อแพงกว่าประเทศอื่น รวมถึงเปิดข้อมูลการจัดซื้อ 18 ครั้ง โดยจำนวนราคาที่ ครม. อนุมติ ไม่ตรงกับราคาซื้อจริง
การจัดซื้อทั้ง 18 ครั้ง ครม.อนุมัติที่ราคา 17 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส แต่ในการจัดซื้อราคาจริง 18 ครั้ง นายประเสริฐได้เปิดเผยข้อมูลดังนี้
ครั้งที่ 1 - ครั้งที่ 3 : ราคาซื้อจริง 17 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส
ครั้งที่ 4 - ครั้งที่ 10 : ราคาซื้อจริง 15 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส
ครั้งที่ 11 - ครั้งที่ 14 : ราคาซื้อจริง 14 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส
ครั้งที่ 15 – ครั้งที่ 16 : ราคาซื้อจริง 9.5 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส
ครั้งที่ 17 - ครั้งที่ 18 : ราคาซื้อจริง 9 เหรียญสหรัฐ ต่อโดส
โดยนายประเสริฐชี้ว่า จากข้อมูลข้างต้น ทำให้มีค่าส่วนต่างสูงกว่า 2 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งข้องสงสัยว่า เงินจำนวนนี้ ไปเข้ากระเป๋าใคร ก่อนที่ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข จะออกมาแถลงข่าวว่า ข้อมูลของนายประเสริฐนั้นคลาดเคลื่อน พร้อมกับยืนยันว่า ไม่มีเงินทอนแต่อย่างใด
แต่ถึงกระนั้นก็ตามที ประเด็นซิโนแวคก็ถูกจุดติดแล้วในสภา และคาดว่าในอีกหลายวันที่เหลือ จะมีการขยี้และขยายในเรื่องนี้ เพื่อสร้างความบอบช้ำให้กับรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
2. มวยคู่เอก
พล.อ.ประยุทธ์ VS พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พี่น้องร่วมสถาบันเดียวกัน ถือว่าเป็นมวยคู่เอกในเกือบทุกแมตช์ของอภิปรายไม่ไว้วางใจ และดุเดือดเลือดพล่าน ถึงขนาดบิ๊กตู่เคยลั่นวาจา ตัดพี่ตัดน้องกลางสภามาแล้ว ด้วยอารมณ์เดือดดาลแบบสุดๆ
และในการอภิปรายวันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็เริ่มต้นด้วยการไล่เรียงความผิดพลาดในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฉากๆ ทั้งเรื่องการใช้งบฯ ปรนเปรอกองทัพ เพื่อให้เป็นฐานอำนาจ -โควิด - บ้านหลวง - ม็อบ ฯลฯ ก่อนยกคำกล่าวของนักปราชญ์ขึ้นมากระแทก “คนโง่ คือภัยอันตราย เมื่อได้กลายเป็นผู้อำนาจ” และมีถ้อยคำรุนแรงอีกมากมายกระหน่ำใส่ พล.อ.ประยุทธ์ แบบไม่ยั้ง
ซึ่งก็เป็นตามคาด พล.อ.ประยุทธ์ ขอใช้สิทธิ์ลุกขึ้นชี้แจงหลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายจบ โดยได้กล่าวประมาณว่า ถึงแม้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะเป็นรุ่นพี่ แต่ก็เป็นได้แค่ ผบ.ตร. ในขณะที่ตัวเองเป็นรุ่นน้อง แต่ได้เป็นนายกฯ ฉะนั้นแล้ว หากว่ากันในแง่ของประสบการณ์จึงแตกต่างกัน รวมถึงตัวเองสวดมนต์ทุกวัน (???) เพราะฉะนั้นจะไม่ทำอะไรที่ผิดอย่างแน่นอน
รวมถึงบอกว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ วันนี้ตนก็ยังเคารพอยู่ แต่ในวันข้างหน้าอาจหมดความนับถือ พร้อมยืนยันตัวเองไม่ได้โกรธ ทุกถ้อยคำล้วนออกมาจากหัวใจ
“ท่านดูหน้าผม ท่านฟังผม ผมพูดจากหัวใจของผม ผมพูดจากสมองที่ท่านว่าน้อย แต่ท่านอย่าลืม ผมมีประสบการณ์ 6-7 ปี ตรงนี้คือความแตกต่าง ที่ผมน่าจะรู้มากกว่าท่าน”
ถ้าสรุปจากท่าที ก็ถือว่านายกฯ เดือดดาลพอประมาณ แต่โดยรวมๆ ยังพอควบคุมอารมณ์ได้ ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้น ไม่มีท่าทีสะทกทะท้าน แต่อย่างใด
3. ผู้อภิปรายที่ถูกประท้วงมากที่สุด
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์
ถือว่าค่อนข้างผิดคาดพอสมควร ที่วันนี้ผู้อภิปรายที่ถูกประท้วงให้ถอนคำพูดมากที่สุด กลับเป็น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์
แต่สาเหตุที่ถูกประท้วง ไม่ใช่เพราะข้อมูลในการอภิปราย แต่เป็นคำพูดเสียดสี ถากถางบิ๊กตู่ในระดับรุนแรง รวมถึงเรียกนายกฯ ว่า “จระเข้น้อย” ทำให้ถูกประท้วงเดือดกลางสภา จนประธานฯ ต้องให้ยุติการอภิปราย
4. ที่สุดแห่งความสะเทือนใจ
ชลน่าน ขอให้ ส.ส.ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสภา
ระหว่างการอภิปรายเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาล จนทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ขอให้ ส.ส.ในสภา ลุกขึ้นยืนเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
จริงอยู่ แม้จะเป็นซีนที่ตั้งใจโจมตีรัฐบาล แต่ก็ทำให้หลายคนรู้สึกสะเทือนใจกับการสูญเสียชีวิตของคนไทยไปเป็นจำนวนมาก
และทั้งหมดนนี้ก็คือไฮไลต์ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก ส่วนในวันต่อๆ ไป SpringNews ก็จะคัดสรรประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนออย่างต่อเนื่อง... โปรดติดตาม !