"ฝ่ายค้าน" จัดหนัก เตรียม 34 ขุนพล ชำแหละ 6 รมต. พุ่งเป้า "ประยุทธ์-อนุทิน" เป็นหลัก ลั่น "เพื่อไทย" ต้องโหวตทางเดียวกันเท่านั้น เตรียมลงดาบ ส.ส.แหกมติ ชี้ หากฝ่าฝืนถึงขั้นพ้นจากสมาชิก
นายประเสริฐ จันทรรวงทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ส.ค. - 4 ก.ย. 64 ว่า พรรคเพื่อไทยหวังว่าการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดนี้ โดยก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมในหลายเรื่อง ทั้งการเปิดแคมเปญต่างๆ อย่างเช่น "หยุดยุทธ์ หยุดโอหัง คลั่งอำนาจ หยุดความพินาศของประเทศ" และแคมเปญ เชิญชวนประชาชนร่วมโหวตไม่ไว้วางใจ ที่ขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อขับไล่พลเอกประยุทธ์ กว่า 30,000 คนแล้ว รวมถึงส่งข้อมูล ข้อคิดเห็นมายังพรรค ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมีการนำไปประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้ทำหนังสือกำชับ ส.ส. ทุกคน ให้ปฏิบัติตามมติพรรคอย่างเคร่งครัด คือ ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน หากใครไม่มาประชุมหรือฝ่าฝืนมติพรรค จะถือว่ากระทำผิดวินัย และจริยธรรมร้ายแรง มีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิกของพรรค ขณะเดียวกันพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังเชิญ ส.ส. ซีกรัฐบาล มาร่วมโหวตไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• แรมโบ้ ซัดฝ่ายค้าน ควรมีสมองกว่านี้ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่วิกฤต
• เปิดญัตติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี
• ศึกอภิปรายฯ ได้แค่ขยี้แผล ! จับตา ถ้าครบเงื่อนไข 3 ข้อ อาจยุบสภาภายในปีนี้
ด้านประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ระบุเพิ่มเติมว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะมีผู้อภิปรายทั้งหมดประมาณ 34 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 19 คน พรรคก้าวไกล 6 คน พรรคเสรีรวมไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน รวมถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ด้วย โดยใช้เวลาทั้งหมด 4 วันอภิปราย และลงมติอีก 1 วัน
โดยกรอบการอภิปรายหลักๆ จะมุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ประมาณ 33 ชม. จาก 40 ชม. ตามกรอบเวลาที่ได้รับ ต่อด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ปิดท้ายด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
ซึ่งจะเปิดอภิปรายโดยผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และปิดท้ายด้วยตนเองในวันสุดท้าย โดยใจความสำคัญจะอภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ชี้ให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น อีกทั้งการทุจริตในส่วนต่างๆ
ถามถึงแนวทางการโหวตของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งนายสุทิน เชื่อว่าจะไปในแนวทางเดียวกัน