งานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ชี้ โควิดเดลต้า เสี่ยงเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น 2.26 เท่า เมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์อัลฟ่า
วารสาร Lancet Infectious Diseases ของอังกฤษ ลงบทความจากทีมนักวิจัยสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ "ผลการวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าผู้ป่วยโควิดจากสายพันธุ์เดลต้ามีความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยโควิดอัลฟ่า ยอดผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยในต่างก็สูงขึ้นจากผู้ป่วยโควิดเดลต้า"
การศึกษาในครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 มี.ค. ถึงวันที่ 23 พ.ค. ถึงจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยโควิดเดลต้ากว่า 8,682 ราย และผู้ป่วยโควิดอัลฟ่า 34,656 ราย โดยผู้ป่วยในทั้งสองกลุ่ม ส่วนใหญ่กว่า 74% เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
โดยทั่วไป ผู้ป่วยเดลต้า 2.3% และผู้ป่วยอัลฟ่า 2.2% เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายในสองสัปดาห์หลังจากตรวจโควิด19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แต่เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของผู้ป่วยในการรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น 'อายุ' หรือ 'สถานะการฉีดวัคซีน' พบว่าโควิดเดลต้ามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2.26 เท่าเมื่อเทียบกับโควิดอัลฟ่า และความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.45 เท่าในการต้องใช้เหตุฉุกเฉิน การดูแลหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตได้ว่า ผลการศึกษามีความคล้ายคลึงกับการวิจัยที่ดำเนินการแยกกันก่อนหน้านี้ในสกอตแลนด์ ซึ่งยังพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายใน 14 วันสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเดลต้ากับอัลฟ่า
นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การติดเชื้อโควิด19 ใหม่ในอังกฤษมีสาเหตุมาจากโควิดเดลต้ามากขึ้น แม้ว่าสัดส่วนของกรณีในการศึกษาที่เกิดจากโควิดเดลต้าโดยรวมจะอยู่ที่ 20%