นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ภาพรวมผู้ติดเชื้อไม่พุ่งสูงอย่างที่กังวล และคาดว่าช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ประชาชนจะมีการใช้ชีวิตแนวใหม่ได้อย่างปลอดภัย
28 ส.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย สถานการณ์การและแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า จากการติดตามแนวโน้มสถานการณ์พบว่า ภาพรวมของประเทศการติดเชื้อได้ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่เราก็คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดความประมาท สำหรับแต่ละจังหวัดกรุงเทพมหานครแนวโน้มผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับ 4 พันกว่าคน มาเป็นสัปดาห์แล้ว ทำให้ภาพรวมถึงแม้จะไม่พุ่งสูงขึ้นมากอย่างที่กังวล แต่ก็ยังคงระมัดระวัง ส่วนต่างจังหวัดมีตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของการตรวจเชื้อด้วย Antigen Test Kit (ATK) ในกรุงเทพฯพบผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูงเกิน 10% ขึ้นไป แต่ระยะหลังมีแนวโน้มลดลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“หมอโอภาส” ชี้จำเป็นจำกัดการเดินทาง หลังตัวเลขป่วยโควิด19 ตายพุ่ง
หมอโอภาส เผย พบผู้ป่วยโควิดอาการหนักเพิ่มต่อเนื่อง มากสุด 2,002 คนต่อวัน
"หมอโอภาส" ยันกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผน พรุ่งนี้ฉีดกลุ่ม "หมอพร้อม" ในกทม.
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวนตัวเลขการฉีดเพิ่มขึ้น 915,738 โดส สะสม 30,420,507 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 22,617,701 โดส เข็มสอง 7,221,368 โดสและเข็มสาม 581,438 โดส เห็นว่าการฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. เนื่องมาจากเราได้วัคซีนมากขึ้น และเป็นไปตามแผนที่เราต้องการฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ตอนนี้เดือน ส.ค.ทำได้เกินเป้าหมาย อย่างไรก็ตามยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็คงจะต้องมีการนำวัคซีนเข้ามา และเร่งรัดให้ฉีดต่อไป
"กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ขณะนี้มีการฉีดอย่างน้อยในเข็มแรกไปแล้วร้อยละ 40 ของเป้าหมาย โดยกลุ่มที่เราให้ความสำคัญต่อไปคือ หญิงตั้งครรภ์ ที่เราพบการเสียชีวิตเกือบทุกวัน เพราะฉะนั้นจึงต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ จึงเชิญชวนหญิงตั้งครรภ์ที่ฝากท้องไว้ในโรงพยาบาลขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลที่ท่านฝากท้อง ยืนยันว่าฉีดวัคซีนขณะนี้กว่า 30 ล้านโดส ยังไม่มีรายใดที่เสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรง จากการประเมินผลชันสูตรศพในรายเสียชีวิตจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นวัคซีนมีความปลอดภัย"นพ.โอภาส กล่าวและกล่าวต่อ
ในเดือน ส.ค.เราจัดหาวัคซีนมีได้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวค แอสตร้าเซนเนกา ไฟเซอร์ ที่เราสามารถนำเข้ามาได้ 13.8 ล้านโดส นอกจากนี้ยังมีวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาก็ทำให้ยอดการฉีดวัคซีนในเดือน ส.ค.ค่อนข้างสูง สำหรับประมาณการในการจัดหาวัคซีนในเดือน ก.ย - ธ.ค. เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนที่ให้ประชาชนได้รับวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส ในปี 2564 เพื่อให้ครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน โดยในเดือน ก.ย.และ ต.ค.มีวัคซีนซิโนแวคเข้ามาอีก ประมาณ 6 ล้านโดสต่อเดือน และแอสตร้าเซนเนกาในเดือน ก.ย.ประมาณ 7.3 ล้านโดส
ส่วนเดือน ต.ค.-ธ.ค. มีแนวโน้มที่ดีที่เขาอาจจะส่งให้เรามากขึ้นไม่น้อยกว่าเดือน ต.ค. ส่วนบริษัทไฟเซอร์ได้รับการแจ้งแบบไม่เป็นทางการว่าในปลายเดือนก.ย.ได้ประมาณ 2 ล้านโดส ซึ่งเขาให้คำสัญญาว่าจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นก็จะมียอดจัดหาใน 3 วัคซีนหลักอยู่ที่ 124 ล้านโดส โดยเป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีข่าวดีที่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มอยู่ต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นจะทำให้ยอดการฉีดของเราเพิ่มเติมขึ้นไป รวมถึงการที่ องค์การเภสัชกรรม ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน จะมีการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาเข้ามาอีก คาดว่าจะมาได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ ทำให้เราจะได้วัคซีนตามแผนอยู่ 100 ล้านโดส
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า เมื่อวาน (27 ส.ค.)มีการประชุมศบค. และได้มีการเสนอเป้าหมายกลยุทธ์ และมาตรการควบคุมโรคแนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย โดยเป้าหมายของเราคือ พยายามทำให้ผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตจากโรคโควิดให้น้อยที่สุด พยายามลดการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด โดยไม่กระทำกับการใช้ชีวิตของประชาชน จากการคาดการณ์และการวางกลยุทธ์ในการควบคุมโรคจะกำหนดว่า จะพยายามให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นภายในเดือน ก.ย.และ ต.ค.สถานการณ์จะอยู่ในระดับปานกลางและ พ.ย.น่าจะดีขึ้น และ ธ.ค.มีการใช้ชีวิตแนวใหม่ได้อย่างปลอดภัย