โลกแห่งยุคดิจิทัล ทำให้ทุกอย่างกำลังเป็นดิจิทัลหมด ขนาดเงินยังจะกลายเป็นเงินสกุลดิจิทัล หลายประเทศกำลังเดินหน้าผลักดันเรื่องนี้ ไทยเองก็กำลังจะมีการทดลองใช้ “ไทยบาทดิจิทัล” ในปี 2565 แล้วคนไทยพร้อมใช้หรือไม่ ? ส่วนระบบรองรับดีพอยัง ? หรือต้องศึกษาอะไรเพิ่ม
ก่อนหน้านี้มีการโหมโรงเรื่อง“คริปโตเคอเรนซี” ไปทั่วโลก แต่... ธนาคารกลางทั่วโลกก็ยังไม่ยอมรับคริปโตเคอเรนซีเช่นกัน ส่วนประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างจีนก็ได้ผุดหยวนดิจิทัล (DCEP) เป็นเงินดิจิทัลสกุลใหม่ที่ถูกสร้างโดยธนาคารกลางของจีน ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่าทั่วโลกกำลังจับตาเรื่องสกุลเงินดิจิทัลกันมาก และเชื่อว่าปี 2565 ก็จะเป็นเรื่องที่มีการพูดถึง และผลักดันกันในหลายประเทศ
จุดพลุทดลองใช้บาทดิจิทัลปีหน้า
ส่วนประเทศไทยก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกันในเรื่องของสกุลเงินดิจิทัล ในรูปแบบไทยบาทดิจิทัล ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย นำโดย ‘นางสาววชิรา อารมย์ดี’ ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้ช่วยผู้ว่าการ) ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเป็นเผย เมื่อเร็วๆนี้ว่า เตรียมทดสอบเงินสกุลดิจิทัล หรือ Central Bank Digital Currency (CBDC) ที่ออกโดยธนาคารกลาง สำหรับการใช้งานจริง ในการรับแลก หรือใช้ชำระค่าสินค้า บริการ
ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2565 แต่จะทดลองใช้ในวงจำกัดภายในแบงก์ชาติก่อน ก่อนที่จะขยายไปยังประชาชนทั่วไป ร้านค้าขนาดใหญ่ และขนาดย่อม ซึ่งในอนาคตวางเป้าไว้ว่า Retail CBDC จะเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในการชำระเงินให้กับประชาชน ซึ่งอาจถูกใช้ทดแทนเงินสด ส่วน e-money ได้อาจใช้ได้บางส่วนในอนาคต
อนาคตเงินบาทเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยเงินดิจิทัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• จับตา! อนาคตสกุลเงินดิจิทัล "ลิบรา" สั่นคลอนหลังพันธมิตรแห่ถอนตัว
• เตือนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล เสี่ยงแชร์ลูกโซ่
• บังคับใช้! รีดภาษีนักขุดเงินดิจิทัล 15%
บาทดิจิทัลไทยเป็นอย่างไร?
อย่างไรก็ตามได้มีการศึกษาถึงผลกระทบ Retail CBDC กับภาคการเงินไทย แล้วบางส่วน พร้อมกันนี้ยังมีผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชนต่อแนวทางการพัฒนา Retail ทั้งนี้เพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางการพัฒนา Retail CBDC และทดสอบใช้งานจริง ซึ่งผลศึกษาในส่วนของ Retail CBDC กับภาคการเงินไทย ต้องออกแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อการส่งผ่านนโยบายการเงิน การทำงานของระบบสถาบันการเงิน รวมถึงเสถียรภาพโดยรวมภาคการเงินไทย
สำหรับลักษณะที่สำคัญจะมีดังนี้ คล้ายเงินสด ,ไม่จ่ายดอกเบี้ย , อาศัยตัวกลาง อย่างสถาบันการเงิน ในการแลกเปลี่ยน Retail CBDC กับประชาชน นอกจากนี้จะมีเงื่อนไขหรือระยะเวลาสำหรับการแลกเปลี่ยน Retail CBDC จำนวนมาก ทั้งนี้ในส่วนของผลสำรวจความเห็นจากภาคประชาชน ส่วนใหญ่เห็นด้วยพร้อมมองว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย จะเป็นการเปิดกว้างต่อการเข้าถึงการแข่งขันในอนาคต
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือความคืบหน้าบ้างส่วนของ ‘ไทยบาทดิจิทัล’ ที่กำลังจะมีการเร่งผลักดันให้ใช้ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี2564 พร้อมกับผลสำรวจผลกระทบ และความคิดเห็นบ้างส่วนของประชาชน แต่จะต้องศึกษาในรายละเอียด และให้มากกว่านี้ว่าคนคนไทยทั่วประเทศมีความพร้อมแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงแผนการให้ความรู้ รายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการใช้จริง ว่าประชาชนจะต้องมีความรู้ มีวิธีใช้ รู้กฎระเบียบอะไรบ้างที่จะใช้เงินสกุลดิจิทัล เพื่อให้มีการปรับตัวได้ทัน