โทนี่ vs พรรคก้าวไกล เดินหน้าไปต่อด้วยกันได้หรือไม่ ?

จุดเริ่มต้น มาจากไลฟ์พี่โทนี่

จากกรณีไลฟ์ของ พี่โทนี่ Tony Woodsome ทักษิณ ชินวัตร อดีตในนายกฯ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่พูดถึงความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล

จากการที่ก้าวไกล อยากให้ยื่นซักฟอก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แต่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย

โดยพี่โทนี่มองว่ามันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ ก่อนปิดท้ายว่า "อย่าทะเลาะกัน โตเเล้ว เป็นเด็กไม่ได้" นั้น ก็ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล นับจากนี้ จะเป็นเช่นใด ?

ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้ดำเนินรายการสุดกับหมาแก่ ชวน พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กับ ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า มาร่วมวงสนทนา

โดย พรรณิการ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่ทักษิณกล่าวในไลฟ์ดังกล่าว ไม่ใช่การสั่งสอน แต่เป็นคำแนะนำ ที่ทางพรรคก้าวไกล ต้องรับฟัง และไม่เพียงแต่ทักษิณเท่านั้น ประชาชนคนอื่นๆ หากจะสั่งสอนพรรค หรือให้คำแนะนำ หรือวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ  ทางพรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะรับฟัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เปิดใจ ชัยวุฒิ กับภาพจำ “มือปราบ Call Out” ยันทำหน้าที่ รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ
• ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุม เพราะม็อบเลยเถิด หรือตำรวจสติแตก

• เพื่อไทย ก้าวไกล ซัดกันเอง ส่งผลกระทบกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือไม่ ?

เพื่อไทย ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย ก้าวไกล ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์

ส่วนในประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยขับเคลื่อนด้วยนโยบาย ในขณะที่พรรคก้าวไกล ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ และชั่วโมงนี้ ประชาชนต้องการแนวทางใดมากกว่ากัน

ดร.สติธร ได้แสดงความคิดเห็นว่า ในความเป็นพรรคเพื่อไทย ในความเป็นทักษิณ ชินวัตร แน่นอนว่า ประชาชนค่อนข้างจะให้ราคามากกว่าผู้นำรัฐบาลในปัจจุบัน แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ อาจเทใจให้พรรคก้าวไกลมากกว่า เพราะที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงอุดมการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศในระดับโครงสร้างอำนาจ ได้อย่างชัดเจน

พรรคก้าวไกลจึงมีความโดดเด่นกว่าพรรคเพื่อไทย ในแง่อุดมการณ์ แต่ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทย ก็มีความโดดเด่นกว่าพรรคก้าวไกล ในแง่นโยบาย จากผลงานที่ผ่านมาในช่วงที่เป็นรัฐบาล

ประชาชนไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างนโยบายกับอุดมการณ์ ถ้าพรรคพรรคนั้นมีทั้งสองส่วนอยู่แล้ว

แต่ในประเด็นนี้ พรรณิการ์ เห็นว่า ไม่จำเป็นที่ประชาชนต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างนโยบาย กับอุดมการณ์ หากแนวทางที่พรรคพรรคนั้นนำเสนอ มีทั้งเรื่องนโยบายที่ดี และอุดมการณ์ที่ชัดเจน อยู่แล้ว

และได้แสดงความคิดเห็นต่อไปว่า ในเรื่องยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรคนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า พรรคนั้นมีเป้าหมายอย่างไร ซึ่งถ้าต้องการเป็นรัฐบาล ยุทธศาสตร์ก็ดำเนินไปเพื่อมุ่งให้บรรลุเป้าหมายนั้น แต่ถ้าต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง ยุทธศาสตร์ที่ใช้ ก็จะเป็นไปในอีกรูปแบบหนึ่ง

ติดตามรายการสุดกับหมาแก่ที่นี่ สำนักข่าวออนไลน์สปริงนิวส์เเละทาง Nation TV 22 ทุกวัน เสาร์-อาทิตย์  21.30 น