svasdssvasds

หมอนิธิพัฒน์ เตือนผู้ป่วยหายจากโควิด-19 เฝ้าระวัง 2 โรค รุนแรงกว่า 3-7 เท่า

หมอนิธิพัฒน์ เตือนผู้ป่วยหายจากโควิด-19 เฝ้าระวัง 2 โรค รุนแรงกว่า 3-7 เท่า

หมอนิธิพัฒน์ เตือนผู้ที่หายป่วยจาก "โควิด-19" ยังต้องระวังอีก 2 โรค และจะมีความรุนแรงกว่าคนที่ไม่เคยป่วยกว่า 3-7 เท่า

 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ประเด็นเกี่ยวกับโรค "โควิด-19" เตือนผู้ที่หายป่วยยังต้องระวังอีก 2 โรค และจะมีความรุนแรงกว่าคนที่ไม่เคยป่วยกว่า 3-7 เท่า โดยระบุว่า

 นอกจากผลทางร่างกายในระบบการหายใจและผลทางจิตใจแล้ว ผู้ที่รอดหรือฟื้นตัวหลังจากป่วยด้วยโรค "โควิด-19" ยังจะต้องเผชิญกับปัญหาความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ตามมาโดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute myocardial infarction) และโรคสมองขาดเลือด (ischemic stroke)

 โรค "โควิด-19" ในระลอกนี้ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยทะลุหลักล้านได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้น แพทย์ที่มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก นอกเหนือจากภาวะอุดตันของหลอดเลือดดำและนำไปสู่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดเฉียบพลัน (acute pulmonary embolism) ที่พบได้เนืองๆ กว่าโรคปอดอักเสบจากเชื้อโรคอื่น คงได้มีโอกาสพบภาวะแทรกซ้อนในระบบหัวใจและหลอดเลือด ทั้งในระหว่างที่ผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล หรือหลังออกจากโรงพยาบาลไประยะหนึ่งแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"หมอนิธิพัฒน์"แฉ! มีการกักตุนถังออกซิเจน เตือนไร้แพทย์ดูแลเสี่ยงอันตราย

• หมอนิธิพัฒน์ แนะ ล็อกดาวน์ตัวเอง-ครอบครัว หลัง รพ.ขนาดใหญ่ ล้นเกินศักยภาพ

• "หมอนิธิพัฒน์" เผย ใน รพ.ศิริราช พบโควิด-19 "สายพันธุ์เดลต้า" เกินครึ่งแล้ว

 มีการศึกษาในเชิงระบาดวิทยาจากประเทศสวีเดน ที่มีระบบฐานข้อมูลสุขภาพของประชาชนในประเทศที่สมบูรณ์ครบถ้วน ได้ทำการติดตามผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 86,000+ คน พบว่ามีอัตราเสี่ยงอุบัติการณ์ (incidence rate ratio) การเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันและสมองขาดเลือดอยู่ระหว่าง 3-7 เท่าเมื่อเทียบกับคนทั่วไป

 ภายในช่วง 2 สัปดาห์นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ (day of infection, DOI) หรือ วันที่เริ่มมีอาการ (day of symptom onset, DOS) แล้วจึงลดลงเหลือประมาณ 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ถัดมา

 เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 คือ นอกจากทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานปกป้องตัวเองมากเกิน (cytokine storm) แล้ว ยังทำให้เกิดความผิดปกติหลายอย่างของเซลล์ผนังหลอดเลือด (activation, injury, dysfunction, and apoptosis of endothelial cells)

 นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความผิดปกติที่ส่งเสริมในอีกหลากกลไกทั้ง เลือดแข็งตัวง่าย เกล็ดเลือดถูกกระตุ้น และ ACE2 receptor downregulation (Lancet 2021; 398: 599-607)