หมอโรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ โดนผู้ป่วยหลอกยังไม่ได้ยาฟาริฟิราเวียร์ หวังเอาไปขายต่อ ซึ่งก่อเหตุแล้วหลายราย วอน หากหลอกว่าไม่ได้ยาก็จะต้องตรวจสอบให้เข็มงวดขึ้น ทำให้การทำงานและทุกอย่างล่าช้า
10 ส.ค.64 นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ระบุว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อภ.เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิต "ยาฟาวิพิราเวียร์" กว่า 40 ล้านเม็ดต่อเดือน
"รพ.สนามธรรมศาสตร์" เตือนถ้าผู้ติดเชื้อยังพุ่ง ยาฟาวิพิราเวียร์ ไม่พอแน่
รู้จัก ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ผลิตในไทยจะขึ้นทะเบียน อย. เดือนนี้
#เพราะการรักษาโควิดการได้ยาFavipiravirเร็วนั้นสำคัญมาก
ในตอนนี้การรับมือกับการระบาดของโควิดในกรุงเทพ เราไม่มีเตียงจะให้คนไข้ทุกคนรักษาในโรงพยาบาลแล้ว การรักษาแบบ Home isolation จึงสำคัญมาก ในเวลาที่คนไข้ติดเชื้อมากมายในแต่ละวัน ทีมแพทย์และเภสัชพยายามจะรีบส่งยา Favipiravir ให้เร็วที่สุดเพื่อให้คนไข้ได้ยาทานก่อนที่อาการจะเป็นมาก ซึ่งแน่นอนว่าการพยายามส่งให้เร็วและจำนวนมาก การตรวจสอบก็จะไม่ได้มีขั้นตอนที่ละเอียดหรือซับซ้อนมากเพื่อความรวดเร็ว และในเวลานี้เรายังส่งยาได้ไม่เร็วพอเลยด้วยซ้ำ
#ตอนนี้มีคนไข้ที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่าไม่ได้
แต่ในความพยายามที่จะทำให้เร็ว ก็มีคนไข้บางคนที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่ายังไม่ได้ เพื่อจะให้ทีมแพทย์ส่งยา Favipiravir ไปให้อีกครั้ง จุดประสงค์เพื่อนำยาไปขายต่อ เพราะตอนนี้ราคายา Favipiravir ในตลาดมืดมีราคาสูงมาก เพราะคนกลัวว่าหากการระบาดยังมากขนาดนี้ ยาอาจจะมีไม่พอ จึงมีความต้องการยา Favipiravir มากและแน่นอนว่าการนำไปขายแบบนี้จะมีคนซื้อทันที
#หากเราต้องสร้างระบบตรวจสอบหลายขั้นทุกอย่างจะยิ่งช้า
ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่คนไข้ได้ยาแล้วแต่บอกว่ายังไม่ได้ เช่นตอนนี้ก็สามารถจับได้หลายเคสแล้วที่ทำแบบนี้ และหากมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความระแวงว่ายาจะรั่วไหล จะทำให้ต้องมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งก็จะเพิ่มทั้งเวลาในการตรวจสอบและต้อง double check ทุกครั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้ยา ซึ่งจะทำให้คนไข้ที่ไม่ได้ยาจริงยิ่งได้รับช้าขึ้นไปอีก
#เราได้ยาแล้วแต่ยังมีคนอื่นที่ยังไม่ได้ยาอีกมาก
จึงต้องขอว่าในเวลาที่วิกฤติแบบนี้ ทุกคนเดือดร้อนและลำบากกันหมด แค่ส่งยา Favipiravir ให้ถึงมือคนไข้ทุกคนให้ทันเวลาก็ยากแล้ว หากคนไข้ท่านใดที่แจ้งว่าไม่ได้ยาแล้วเราต้องมาตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานการได้ยาไปแล้วหรือยัง ก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างระบบตรวจสอบ ต้องเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็จะล้าช้าไปหมด
ระบบราชการช้าและซ้ำซ้อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว อย่าทำให้ช้าเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเลย เวลานี้คนไข้และทีมแพทย์และทีมรักษาต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เรารักษาคนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะเราจะต้องรอดไปด้วยกันจากวิกฤติครั้งนี้