ชำแหละเรื่องราว ! ‘ลดคุ้มครองเงินฝาก ฉบับเข้าใจง่าย เริ่ม 11 ส.ค.นี้

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีการพูดถึงกันมากในช่วงนี้ คือ เรื่องการลดคุ้มครองเงินฝาก ที่จะลดจาก 5 ล้านบาท ลงมาเหลือ 1 ล้านบาท โดยจะเริ่ม 11 ส.ค. 2564 นี้ เรื่องนี้ทำเอาหลายคนเกิดความสับสนอยู่ไม่น้อย วันนี้ #สปริงนิวส์ ได้รวบรวมข้อมูลแบบเข้าใจง่าย ๆ มานำเสนอ พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน มาไขข้อสงสัยต่าง ๆ

ก่อนจะไปอ่านบทวิเคราะห์จะพาไปดูถึงบทบาทของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และการลดคุ้มครองเงินฝาก โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากมีบทบาทต่อเมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยจะทำการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเงินตามวงเงินคุ้มครองไปก่อน โดยผู้ฝากไม่ต้องรอให้กระบวนการชำระบัญชีเสร็จสิ้น คือ เมื่อธนาคารที่ฝากเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาตประชาชนจะได้รับวงเงินตามเกณฑ์คุ้มครอง คืนโดยเร็วจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

นักเศรษฐศาสตร์ ชี้ ทำเพื่อความแข็งแกร่งสถาบันการเงิน 

‘รศ. ดร. สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์’ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ และการเมือง เปิดเผยว่า การลดคุ้มครองเงินฝาก ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เชื่อว่าเป็นการทำคล้ายปี 2540 ที่เศรษฐกิจไทยเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง ทั้งนี้เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินไทย และขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะคนที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านไปมีจำนวนมามาก และหากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ เชื่อว่าจะมีแนวทางแก้ไขให้ลูกค้า ส่วนคนที่มีเงินจำนวนมากก็คาดว่าจะโยกย้ายไปลงทุนอื่น ๆ แทน

สำหรับการลดคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งวงเงินคุ้มครองสูงสุดที่ผู้ฝากเงินจะได้คืนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายปัจจุบันคือ 5 ล้านบาท หลังจากวันที่ 11 ส.ค. 2564 เป็นต้นไปคือ 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน 1 แห่ง ไม่ใช่คุ้มครองต่อ 1 บัญชีหมายความว่า ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากตามเอกสารการเปิดบัญชีซึ่งในกรณีที่ผู้ฝากมีบัญชีเงินฝากหลายบัญชีที่เปิดอยู่กับ สถาบันการเงิน 1 แห่ง จะต้องนำเงินฝากในทุกสาขาและทุกบัญชีมารวมคำนวณ

 11 ส.ค. 64 นี้ จะมีการลดคุ้มครองเงินฝากเหลือแค่ 1 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Breaking New: ชงครม. ช่วยผู้ประกันตนม.33 ใช้เกณฑ์เงินฝากไม่เกิน 5 แสน  

• โควิดพ่นพิษ ! ทำคนไทยแห่ถอนเงินฝาก มาใช้ประทังชีวิต เดือนเดียวแสนล้านบาท

• ราชกิจจาฯ ประกาศ พ.ร.ฎ. คุ้มครองเงินฝาก 5 ล้านนับตั้งแต่ 11 ส.ค. 63 ถึง 10 ส.ค. 64

ถามว่าทำไมต้อง"คุ้มครองเงินฝาก" ?

เหตุผลที่ต้องมีนโยบายและมาตรการในการคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนผู้ฝากเงินในสถาบันการเงิน เพื่อจะได้รับเงินฝากคืนภายในเวลาที่รวดเร็ว หากสถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่งประสบปัญหาต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อธนาคารที่เราฝากเงินล้ม เนื่องจากเพิกถอนใบอนุญาต ประชาชนที่ฝากเงินจะได้รับเงินส่วนที่ฝากอยู่คืนครบทั้งหมด ตามวงเงินที่ สถาบันคุ้มครองเงินฝากกำหนด

แล้วจุดเริ่มต้นมายังไง ?

นอกจากนี้ #สปริงนิวส์ ยังได้รวบรวมสรุปรายละเอียด การลดคุ้มครองเงินฝากแบบเข้าใจง่าย ๆ  เริ่มจากจุดเริ่มต้นของวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งมีสถาบันการเงินล้มจำนวนมากรัฐบาลสมัยนั้นเกิดกังวลเรื่องความเชื่อมั่นของธนาคารจึงเลยประกาศ "ค้ำประกัน" ให้กับเจ้าหนี้และผู้ฝากเงินเต็มจำนวนจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้น

ส่วนรายละเอียดลดคุ้มครองเงินฝาก ในครั้งนี้สามารถสรุปให้แบบเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

-ลดจาก 5 ล้านบาทเหลือ 1 ล้านบาท เริ่ม 11 ส.ค.นี้

-เงื่อนไข 1 ชื่อผู้ฝาก ต่อ 1 บัญชี ต่อ 1 สถาบันการเงิน

-ทำเพื่อเสริมความแกร่งสถาบันการเงิน ยามที่เศรษฐกิจอ่อนแอ

-ปัจจุบันบัญชีเงินฝากมีไม่เกิน 1 ล้านบาท มี 98% ได้รับคุ้มครองเต็ม

- 2% ของบัญชีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท กลุ่มนี้อาจโยกเงินไปลงทุนอื่น ๆ

หากสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องทำไง ?

-ผู้ฝากได้รับเงินคืนใน 30 วัน ใครมีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้าน ได้รับคืนเต็ม

-หากมี 2 ล้านบาท จะได้รับเงินคืน 1 ล้านบาท ใน 30 วัน ส่วนอีก 1 ล้านบาท สคฝ.จะนำทรัพย์สินของสถาบันการเงินมาจำหน่าย คืนเงินให้ผู้ฝากเงินทุกราย

-จ่ายคืน 2 ช่องทาง พร้อมเพย์  และ เช็ค

ขณะที่เพจของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ออกมาโพสต์ชี้แจงอีกว่า สำหรับผู้ฝากที่มีเงินฝากเกินกว่าวงเงินคุ้มครองสถาบันคุ้มครองเงินฝากก็ให้ความคุ้มครอง 1 ล้านบาทแรกด้วย สำหรับส่วนที่เหลือ มีโอกาสได้รับเงินคืนเพิ่มเติมภายหลังจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากชำระบัญชีและขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินดังกล่าวเสร็จสิ้น

สคฝ. แจงยิบทุกรายละเอียดการลดคุ้มครองเงินฝาก

ขณะที่ ‘นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์’ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า การลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท หากสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ดังนั้น หากใครมีเงินฝากต่อสถาบันการเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน แต่หากใครมีเกิน 1 ล้านบาท เช่น มีเงินฝาก 2 ล้านบาทกับสถาบันการเงินเดียวกันจะได้รับเงินคืน 1 ล้านบาทภายใน 30 วัน ส่วนอีก 1 ล้านบาท สคฝ.จะนำทรัพย์สินของสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาจำหน่าย และคืนผู้ฝากเงินทุกราย ซึ่งจะได้รับเงินฝากส่วนที่เหลือคืน

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันปัจจุบันบัญชีเงินฝากมีไม่เกิน 1 ล้านบาทที่ได้รับคุ้มครองเต็มจำนวนมีมากกว่า 98% ส่วนอีกเกือบ 2% ที่บัญชีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้เชื่อว่าจะมีการบริหารเงินที่ดี สามารถนำเงินไปลงทุนอย่างอื่นเพื่อได้รับผลตอบแทนสูงกว่า หรือกระจายเงินฝากไปยังบัญชีสถาบันการเงินอื่น ๆ เพราะความคุ้มครองไม่ได้นำเงินฝากของทุกแห่งมารวมกัน เช่น มีเงินฝาก 1 ล้านบาทกับสถาบันการเงินหนึ่ง และยังมีอีก 1 ล้านบาทกับอีกสถาบันการเงิน สามารถได้รับความคุ้มครองแบบเต็มจำนวน เพราะไม่ได้นำเงินฝากจาก 2 สถาบันการเงินมารวมกัน

ทั้งนี้ สคฝ. กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงวงเงินคุ้มครองเงินฝากยืนยันคุ้มครองผู้ฝากเงินกับสถาบันการเงินทั้ง 35 แห่งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่ง เงินกองทุนและเงินสำรองสูง โดยความคุ้มครองจะคุ้มครองบัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ 5.ใบรับฝากเงิน