svasdssvasds

สรุป ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส กลายเป็นวัคซีนทิพย์ เพราะดีลกับรัฐล่ม หรือปั่นหุ้น ?

สรุป ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส กลายเป็นวัคซีนทิพย์ เพราะดีลกับรัฐล่ม หรือปั่นหุ้น ?

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ชี้แจงผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส กลายเป็นวัคซีนทิพย์ เพราะดีลกับรัฐล่ม หรือปั่นหุ้น ?

เป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับตาและตั้งคำถามเป็นอย่างมาก จากกรณีที่ นพ.บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ประธานกรรมการบริษัท บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ที่ก่อนหน้านี้ได้อ้างว่า กำลังเตรียมทำสัญญานำเข้าวัคซีน ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) จำนวน 20 ล้านโดส โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่ได้รับมอบอำนาจในการนำเข้าวัคซีน

ซึ่งในวันนี้ วัคซีนดังกล่าว ก็กลายเป็นวัคซีนทิพย์ไปแล้วเรียบร้อย แต่ประเด็นที่ค้างคาใจก็คือ การที่หมอบุญให้ข่าวกับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ มีวัตถุประสงค์อะไร ? ได้มีการดำเนินการเพื่อนำเข้าวัคซีนจริงหรือไม่ ? รวมถึงถ้าจริง การนำเข้าต้องสะดุด เพราะอะไร ?

ที่สำคัญก็คือ ช่วงที่หมอบุญให้ข่าวว่า จะนำเข้าไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ทำให้หุ้นของ บริษัท บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป พุ่งกระฉูด หลังจากหงอยเหงามาเป็นเวลานาน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามว่า จงใจปั่นหุ้นหรือไม่ ?

โดยในวันนี้ นพ.บุญ วนาสิน ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวผ่าน “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ซึ่งหมอบุญก็ถูกขยี้ในประเด็นต่างๆ อย่างหนักหน่วง โดยดนัยได้เล่าถึงที่มาในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า

“เขากล่าวหาว่า เราสบคบคิดกับหมอบุญในการปั่นหุ้น สร้างข่าว เราจึงบอกกับหมอบุญว่า ถ้าวันนี้ไม่ยอมเข้าสาย คุณหมอไม่เคลียร์ให้มันสะเด็ดน้ำเรื่องวัคซีนทิพย์ เรื่องปั่นหุ้น ก็คงไม่ทำข่าวกันอีกแล้วล่ะ...”

ซึ่ง Springnews ขอนำบทสัมภาษณ์ดังกล่าว มาสรุปให้ชัดๆ ดังต่อไปนี้

หมอบุญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1. การประกาศจะนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ?

ในประเด็นนี้หมอบุญเล่าว่า เป็นการดำเนินการผ่านเอเย่นต์ในประเทศต่างๆ ที่รวบรวมโควต้าเล็กๆ หรือที่เรียกว่าโควต้าพิเศษ จากโรงงานผลิตวัคซีนทั่วโลกของ Pfizer และ BioNTech แต่การซื้อ-ขายตรงนี้ ราคาจะสูงขึ้นกว่าที่บริษัทวัคซีนขายให้กับรัฐบาล เพราะเป็นโควต้าเพื่อทำกำไร

โดยหมอบุญเล่าว่า ต้องดีล 7-8 contract ถึงจะได้จำนวน 20 ล้านโดส

“บางที่ได้ 2 ล้านโดส บางที่ได้ 3 ล้านโดส บางที่ได้ 5 ล้านโดส หรือได้ 5 แสนโดส เราก็เอาหมด”

2. ดีลกับเอเย่นต์เรียบร้อย จัดหาวัคซีนให้แล้ว 20 ล้านโดส แต่นำเข้าไม่ได้ เพราะอะไร ?

ตามข้อกำหนดในการนำเข้าวัคซีน ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ต้องดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น ซึ่งก็มีการให้ข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้ดำเนินการให้ จนโฆษกกระทรวงกลาโหม ต้องออกมาปฏิเสธ และชี้แจงว่า ไม่มีตัวแทนของกระทรวงเจรจากับหมอบุญเรื่องการนำเข้าวัคซีนเลย

ดนัยจึงขยี้ถามชัดๆ ว่า หน่วยงานที่มีการอ้างถึง ว่าจะเป็นตัวแทนนำเข้าให้ นั้นหมายถึงหน่วยงานใดของรัฐ ?

“พูดไม่ได้ เขาพยายามช่วยเรา แต่เขาทำไม่ได้” หมอบุญกล่าว

ดนัยจึงขยี้ซ้ำ “ระดับกระทรวงกลาโหมยังทำไม่สำเร็จหรือครับ ?”

แต่หมอบุญตอบเลี่ยงว่า “เรารอมา 3 เดือน โดนยึดมัดจำไป 2 ครั้งแล้ว”

เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ดนัยจึงขยี้หนักขึ้นไปอีก “หมายถึงการจอง ต้องวางมัดจำกับเอเย่นต์ไว้ก่อน ขณะที่ในไทย ก็ต้องเคลียร์กับหน่วยงานรัฐ ที่มีสิทธิ์นำเข้า ได้คุยกับกลาโหมมา 3 เดือน แล้วเหรอครับ”

“ขอไม่เอ่ยชื่อครับ” หมอบุญกล่าว

เมื่อไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนสักที ว่าใช้กระทรวงกลาโหมหรือไม่ ที่หมอบุญอ้างว่าจะนำเข้าวัคซีนให้ ดนัยจึงถามออกไปตรงๆ และชัดๆ ดังนี้

“มีสื่อสำนักหนึ่งเปิดชื่อว่า เป็นกระทรวงกลาโหม แต่ต่อมากลาโหมก็ออกมาปฏิเสธ เขาบอกไม่เคยคุยกับคุณหมอ”

หมอบุญชี้แจงว่า ในการติดต่อกับบหน่วยงานรัฐนั้น ตนไม่ได้ดำเนินการเอง แต่มอบหมายให้น้องชายไปดำเนินการ แล้วน้องชายก็ไปติดต่อหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงกลาโหม กระทั่งได้รับใบมอบอำนาจในการจัดหาวัคซีน ส่วนที่เคยเป็นข่าวว่าดีลกับกระทรวงโหม หมอบุญบอกว่า เป็นการตีความไปกันเอง

สรุปก็คือ หน่วยงานที่จะร่วมนำวัคซีนเข้าไทย ในความหมายของหมอบุญก็คือ หน่วยงานหนึ่งในกระทรวงกลาโหม ไม่ใช่กระทรวงกลาโหม (?????) แต่ตอนนี้หน่วยงานนั้น ไม่ดำเนินการให้แล้ว

3. ยังพอมีช่องทางนำวัคซีน 20 ล้านโดสเข้ามาไทยได้หรือไม่ ?

และเมื่อดนัยถามชัดๆ ว่า สรุป 20 ล้านโดส ที่บอกจะเซ็นสัญญากันได้ภายในสัปดาห์นี้ ภายในเดือน ส.ค.นี้ ไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ เพราะหน่วยงานรัฐไม่ร่วมมือด้วย ?

“คิดว่า 90 % เอาเข้าไม่ได้แล้ว เขาก็มีเจตนาดี ที่จะช่วยกัน แต่คงจะผ่านอุปสรรคต่างๆ ไม่ได้”

โดยหมอบุญเล่าว่า ในความเป็นจริงแล้ว มีหน่วยงานของรัฐกว่าสิบหน่วยงาน สามารถนำเข้าวัคซีนได้ อย่างก่อนหน้านี้ตนเคยติดต่อโรงพยาบาลศิริราช แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะมองว่าเป็นการค้า

“หรืออย่างกระทรวงกลาโหม ก็มีหน่วยงานที่นำเข้าได้ หลายกระทรวงก็นำเข้าได้ อยู่ที่ว่าใครจะกล้าออกมาทำ...” หมอบุญกล่าว

ส่วนในกรณีที่ว่า ในเมื่อทางหมอบุญได้ดีลกับเอเย่นต์ไว้แล้ว เมื่อไม่สามารถนำเข้าได้ ตรงนี้สามารถโอนสิทธิ์ ให้ทางรัฐดำเนินการต่อได้หรือไม่ ?

ซึ่งหมอบุญก็บอกว่า มีเป็นไปได้สูง แต่ไม่ได้ให้คำตอบในประเด็นนี้ที่ชัดเจนนักว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

4. ปั่นหุ้นหรือไม่ ?

ส่วนประเด็นสำคัญที่เป็นไฮไลต์ นั่นก็คือ ที่มาที่ไปในการให้ข่าวการนำเข้าวัคซีนดังกล่าว มีเจตนาที่จะปั่นหุ้นหรือไม่นั้น ดนัยก็ได้ถามตรงๆ ทิ้งท้ายว่า “เขากล่าวหาว่าวัคซีนทิพย์ ปั่นหุ้น เคลียร์ให้จบดีกว่า เพราะสังคมยังค้างคาใจ”

หมอบุญปฏิเสธและกล่าวว่า “เรื่องหุ้น ผมซื้อประจำอยู่แล้วทุกเดือน เพราะฉะนั้นการที่จะได้กำไร 4 ล้านบาท จากธุรกิจเรา แลกกับการผมต้องใช้เงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาทซื้อวัคซีน ซึ่งถ้าจะทำอย่างนั้น มันไม่คุ้มกัน...”

ซึ่งในประเด็นนี้ ไม่อาจจบลงได้เพียงแค่คำบอกเล่า ในทางปฏิบัติแล้ว ต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป  

แต่ที่ชัวร์ๆ ชัดเจนแล้วในเวลานี้นั้นก็คือ วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้าน ที่จะนำเข้าเร็วๆ นี้ กลายเป็น “วัคซีนทิพย์” ไปแล้วเรียบร้อย

ดนัย เอกมหาสวัสดิ์

ที่มา เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ฟังให้จบที่เดียว! เปิดใจ "หมอบุญ" ดีลวัคซีนล่มหรือปั่นหุ้น?

related