ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ แจงแนวทางแก้ไขปัญหาการทุจริตลงทะเบียนวัคซีน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อจ่ายเงิน ย้ำศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี พร้อมเผยกรณีซื้อ-ขายคิว ที่เกิดขึ้นราว 10,000 เคส ภายในเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว!
กระแสข่าวที่เกิดขึ้น ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เรื่องการซื้อขายคิวฉีดวัคซีนที่มีประเด็นให้สงสัยว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ มิจฉาชีพแฝงเข้ามาในลักษณะใด หรือเครือข่ายทรูโดนแฮ็กจริงหรือ? เพื่อเคลียร์ให้ชัด แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จึงออกมาเผยทุกปมที่เกิดขึ้นและอธิบายสิ่งที่คนไทยสงสัยทั้งหมด
ดูแนวปฏิบัติ ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ก่อนสืบหาช่องโหว่
ศูนย์ฯ แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคม ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 โดยมี สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยมีผู้เข้ารับบริการวันละ 10,000-30,000 คน
ที่ผ่านมา การลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนมี 2 รูปแบบหลักในสองช่วง คือ
โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่าน 4 ค่ายมือถือ และการนัดล่วงหน้าขององค์กรขนาดใหญ่ อาทิ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. - 29 มิ.ย. 64 โดยการจองคิวล่วงหน้าดังกล่าว ทางศูนย์ฯ จะได้รับข้อมูลของผู้มารับบริการและจัดทำเป็นฐานข้อมูลสำหรับการลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ก่อน ช่วยให้ผู้จองคิวมารับบริการจริงไม่ต้องมาเพิ่มข้อมูลหน้างาน เพียงแต่บริการลงทะเบียนเข้ารับบริการจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น
เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 64 ที่เปิดให้ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า และต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกรกฎาคมทั้งเดือน ที่เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการแบบ walk-in ได้ ซึ่งในช่วงดังกล่าวนี้ ทางศูนย์ฯ ไม่มีข้อมูลเดิมของผู้รับบริการเลย และผู้มารับวัคซีนต้องลงทะเบียนหน้างานใหม่ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องเปิดสิทธิให้จิตอาสาที่มาทำหน้าที่ในส่วนการลงทะเบียนที่มีอยู่มากกว่า 200 จุด สามารถเพิ่ม/แก้ไขข้อมูลของผู้รับบริการได้ทั้งหมด
ตรวจพบพิรุธทุจริตคิวฉีดได้ยังไง?
ด้วยจำนวนจิตอาสาหมุนเวียนและได้รับสิทธิในการดำเนินการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนเกิดช่องทางให้ทำเรื่องทุจริต ขณะเดียวกัน ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อก็มีการเฝ้าระวัง เก็บข้อมูลเชิงสถิติทั้งสำหรับการทำงานที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานในแต่ละวัน ตลอดจนตรวจสอบภาระงานที่ต้องทำในอนาคต จนพบความผิดปกติในการนัดหมายล่วงหน้าที่คาดการณ์ได้ว่า อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น
โดยในวันที่ 18 ก.ค. 64 แพทย์หญิงมิ่งขวัญกล่าวว่า พบพิรุธหลักๆ 2 ประการคือ
โดยเริ่มพบตัวเลขผิดปกติที่หลักสิบในช่วงวันที่ 20-27 ก.ค. และเพิ่มจำนวนนัดมากกว่าปกติเป็นหลักพันในวันที่ 28-31 ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเปิดรับการบริการแบบ walk-in
โดยพบว่า ในช่วงสัปดาห์ดังกล่าวเป็นช่วงที่ศูนย์ฯ งดรับการนัดล่วงหน้าจากองค์กรภายนอกเกือบทั้งหมด (ยกเว้นบางหน่วยงาน เช่น การนัดของกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งนัดหมายการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุต่างชาติวันละประมาณ 400 คนเท่านั้น) และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ดำเนินการด้านข้อมูลแล้วเสร็จภายในเวลา 18.00 น. ของแต่ละวัน แต่กลับพบว่ายังมี Upload ส่งข้อมูลนัดหมายล่วงหน้าอีกในเวลาหลัง 22.00 น.ของทุกวัน ประกอบกับทางศูนย์ฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีการซื้อขายคิวฉีดวัคซีนจากประชาชนมากพอสมควร จึงได้ตรวจสอบและพบว่า มีการเพิ่มจำนวนนัดล่วงหน้าโดยทุจริตจาก Users 19 login ซึ่งอยู่ในกลุ่มจิตอาสาที่ได้เพิ่มสิทธิในการนำเข้า/แก้ไขข้อมูลผู้รับบริการในช่วงเปิดบริการแบบ walk-in
ย้อนดูความแออัด ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ก่อนจับพิรุธได้
กลยุทธ์ขุดบ่อล่อปลา สาวไปให้ถึงต้นทาง
ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อวางแผนจับกุมเพื่อสืบให้ได้ถึงผู้กระทำผิดรายใหญ่และรายย่อยทั้งหมด โดยดำเนินการในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่มีคิวนัดล่วงหน้าเพิ่มมากกว่าปกติกว่า 2,000 คน ด้วยกลยุทธ์ขุดบ่อล่อปลาให้ผู้ที่ซื้อคิวโดยทุจริตเหล่านี้เดินทางมารับบริการที่ศูนย์ฯ เมื่อตรวจเช็คแล้วว่า เริ่มมีการลงทะเบียนไปประมาณ 600 คน จากจำนวน 2,000 กว่าคน ศูนย์ฯ ก็แจ้งยกเลิกคิวฉีดทั้งสองพันกว่าคนนั้น เพื่อบีบให้คนกลุ่มนี้แสดงตัวขอความช่วยเหลือหรือร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ โดยได้จัดสถานที่ไว้เป็นการเฉพาะ
ต่อมาให้ พญ.มิ่งขวัญ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เข้าไปชี้แจง/ขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริต และสามารถรวบผู้ทำนัดโดยทุจริตนี้ได้มากกว่า 300 คน ซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อไปอย่างยิ่ง
ทุจริตคิวนัด ปัญหาที่ต้องสะสางและไม่อาจยอมรับได้
ข้อมูลจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า การซื้อคิวนัดดังกล่าว มีทั้งซื้อเอง ญาติหรือนายจ้างซื้อให้ และมีการจ่ายเงินทั้งแบบเงินสดและการโอนเงินในอัตรา 400-1,200 บาทต่อคิว ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลรายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว และให้นิติกรของกรมการแพทย์เป็นผู้แทนในการดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจ สน.นพวงศ์ ในฐานะผู้เสียหาย
ขณะนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนจิตอาสาทั้ง 19 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
และเพื่อเป็นการแก้ไข/ป้องกันการเกิดทุจริตดังกล่าวและในอนาคต ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อดำเนินการแล้ว ดังนี้
สารจากกรมการแพทย์และศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
ขอขอบคุณจิตอาสาตลอดจนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 4 แห่ง (Operator) ที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด และพร้อมร่วมมือกันต่อไป โดยขอย้ำกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี และหากจะมีเบาะแสการทุจริตใดๆ ก็ตาม โปรดแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบเพื่อที่จะได้ดำเนินการจับกุมและแก้ไขต่อไป