ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยตอนนี้ต้องการแรงกระตุ้นมากๆ รัฐก็ไม่ได้ลดละความพยายาม ล่าสุดนายกรัฐมนตรี สั่งปัดฝุ่นโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ช้อปดีมีคืน ดึงคนรวยจับจ่ายปลายปี 2564 รวมถึงโครงการคนละครึ่ง จับตาดูว่าจะมีอะไรออกมาใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ
รัฐไม่ลดความพยายาม เข็นยิ่งใช้ยิ่งได้ ช้อปดีมีคืน
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในไทยจะยังควบคุมไม่ได้ แต่...มาตรการความช่วยเหลือต่าง ๆ ก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องทำควบคู่กันไป แบบรอไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะเศรษฐกิจไทยอาการตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงต้องการยาแรงมาช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นอย่างด่วน หนึ่งในมาตรการที่รัฐอยากให้เกิด และยังไม่ลดความพยายาม คือโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งเป็นการดึงคนรวยออกมาจับจ่ายแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดโครงการ
ทั้งนี้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการช้อปดีมีคืน เคยทำไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร จึงทำให้รัฐต้องนำกลับมาทบทวนอีกครั้งว่าจะต้องมีการปรับเงื่อนไขอะไร ยังไงบ้าง เพื่อให้เกิดการจูงใจให้กลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีก็ได้มีการสั่งให้พิจารณาโครงการช้อปดีมี ยิ่งใช้ยิ่งได้ กลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการปรับโครงการคนละครึ่ง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
เศรษฐกิจไทยยังรอการกระตุ้นอย่างแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• นายกฯ เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ เผย ครม.เห็นชอบ “ช้อปดีมีคืน”
• จุดพลุ ยิ่งใช้ยิ่งได้ รัฐคาดเงินสะพัด 2.6 แสนล้านบาท แต่ยอดลงทะเบียนกร่อย
• คนละครึ่งเฟส 3 ยืนยันตัวตน วันนี้เงินเข้าวันแรก 1 ก.ค. 64 เช็กสิทธิด่วน!
เล็งปัดฝุ่น 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
‘นายอนุชา บูรพชัยศรี’ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งโครงการคนละครึ่ง และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการช้อปดีมีคืน กลับมาใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเร่งให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามเป้าหมาย
นอกจากจะมีการสั่งปัดฝุ่นโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการช้อปดีมีคืน และโครงการคนละครึ่ง แล้ว นายกรัฐมนตรียังขอให้เร่งส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น การดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าประเทศไทย ผู้มีกำลังซื้อสูง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สูงอายุ เพื่อสนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศอีกทางหนึ่ง
สั่งชะลอโครงการที่ติดขัดออกไปก่อน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียังให้เร่งพิจารณาแผนงานของทุกกระทรวง ที่อยู่ภายใต้งบประมาณฯ ปี 2564 และ 2565 ที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย ทั้งนี้หากโครงการใดที่ติดขัดเพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็สามารถชะลอไปก่อนได้ และพิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด