ศบค. เปิดเผยข้อมูล โควิดสายพันธุ์เดลต้า มีโอกาสที่จะมีแนวโน้มในการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งประเทศ ในขณะที่เตียงรอบรับเพื่อรับการรักษาของผู้ป่วย อาจต้องมีการปรับเกณฑ์ เพื่อให้มีมากพอต่อการรักษา
นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์สายพันธุ์ที่พบการแพร่ระบาดในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง 2 ก.ค. 2564 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
พบสายพันธุ์เดลต้ากว่า 52% สายพันธุ์แอลฟ่า 47% และสายพันธุ์เบต้า 0.2% แต่ในภูมิภาคยังคงเป็นสายพันธุ์แอลฟ่า 77% สายพันธุ์เดลต้า 18% และสายพันธุ์เบต้า 4.4% และภาพรวมทั้งประเทศยังคงพบสายแอลฟ่ามากที่สุดคือ 65.1% สายพันธุ์เดลต้า 32.2% และสายพันธุ์เบต้า 2.6%
ส่วนสัดส่วนสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังคือสายพันธุ์เดลต้า พบว่ามีเปอร์เซ็นต์การติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในห้างการแพร่ระบาด คือ 10.4% , 16.6% และล่าสุดในห้วง 28 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค. คือ 32.2%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนสถานการณ์เตียงในการรองรับผู้ป่วยขณะนี้ผู้ป่วยอาการน้อยมีทั้งหมด 14,522 ราย ใช้เครื่องหายใจ 389 ราย และจากสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อที่สะสมจำนวนมาก เนื่องมากจากแต่ละเคสที่เข้ารับการรักษาต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 14 วัน ทำให้ยอดผู้รักษาหายป่วยน้อยกว่ายอดผู้ติดเชื้อ คาดว่าจะต้องมีการปรับเกณฑ์การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วย เพื่อรักษาสภาพจำนวนเตียงในการรองรับ