Breaking News : กรมวิทย์ฯ เผยพบสายพันธ์เบต้าในกทม.ยังควบคุมได้

นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ระบุกรณีพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบต้า (แอฟฟริกาใต้) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1 ราย โดยได้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันผล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากการสอบสวนโรค พบ ติดเชื้อจากลูกชายซึ่งเดินทางกลับมาจากนราธิวาส มาเยี่ยมครอบครัวที่ กรุงเทพ โดยลูกชายขณะที่เดินทางมา กรุงเทพ ไม่มีอาการป่วย ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานที่นราธิวาสและมีการตรวจพบติดเชื้อ ทางครอบครัวที่กรุงเทพจึงมีการเข้าตรวจหาเชื้อ จึงพบว่า พ่อ และญาติ 2 คน ติดเชื้อ โดยพ่อ ตรวจพบเป็นสายพันธุ์เบต้า ส่วนญาติอีก2รายยังรอการตรวจสอบสายพันธุ์อยู่ ทั้งนี้ได้ติดตามผู้สัมพัสกับกลุ่มนี่ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า ภาพรวมทั้งประเทศ ตั้งแต่เดือน เมษายน พบการระบาดของสายพันธุ์แอลฟ่า ร้อยละ 86.31 สายพันธุ์เบต้าร้อยละ 12.30 และสายพันธุ์เบต้าร้อยละ 1.39 ซึ่งในช่วง 21-27 มิถุนายน พบว่า สายพันธุ์ เบต้า ในจังหวัดนราธิวาส 87 ราย จังหวัดยะลา 1ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย และ กทม1 ราย ซึ่งทั้งหมดยังเชื่อมโยงกับพื้นที่ภาคใต้ 

ส่วนโควิดสายพันธุ์เดลต้า(อินเดีย)มี ผู้ติดเชื้อเพิ่มในหลายจังหวัด  พื้นที่ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร 331 ราย และในภาคอื่นๆ เช่น  อุดรธานี 23 ราย สกลนคร 22 ราย นครสวรรค์ 11 ราย และนราธิวาส 2 ราย ซึ่งเชื่อมโยงกับแคมป์คนงานในกรุงเทพมหานคร 
 
สำหรับภาพรวม การระบาดสายพันธุ์เบต้า ถือว่าอัตราการแพร่ระบาดต่ำยังอยู่ในวงจำกัดส่วนของสายพันธุ์เดลต้าตามสถานการณ์ขณะนี้ในอีกสองถึงสามเดือนจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อแทนที่แอลฟ่า เพราะมีอัตราการแพร่ระบาดสูงกว่า 1.7 เท่า

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนชิโนแวคในประเทศไทย พบว่าสามารถป้องกันสายพันธุ์อังกฤษ โดยมีการวัดผลของผู้ติดเชื้อ โดยพบว่าที่ภูเก็ตผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ2เข็มเป็นเวลา 14 วัน สามารป้องกันโรคได้ร้อยละ 90.7 สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ที่เชียงรายสามารถควบคุมโรคได้ร้อยละ 82.8 ขณะที่กรมควบคุมโรคระบุการฉีดวัคซีนโควิด 19 2เข็ม สามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ 70.9 โดยเมื่อฉีดเข็มเดียวสามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ 39.4  ส่วนกรณีการฉีดวัคซีนเข็มสามนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวัคซีน 2 เข็มสามารถป้องกันโควิด-19ได้