"ฉัตรชัย" ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงปมสนับสนุนวัคซีนโควิดพนักงาน และครอบครัว ของบริษัทไทยเบฟ ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์นายทุนใหญ่ ยกเอกสารระบุชัดเจน องค์กรขนาดใหญ่ขอสนับสนุนวัคซีนได้
จากกรณีมีการเผยแพร่หนังสือสั่งการของปลัดกระทรวงมหาดไทย อ้างถึง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ขอความอนุเคราะห์สนับสนุนวัคซีนป้องกันโควิด ให้กับพนักงาน 43,201 คน และครอบครัวของพนักงานอีก 28,244 คน ซึ่งทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วเห็นชอบให้จังหวัดพิจารณาสนับสนุนวัคซีนให้กับไทยเบฟฯ จนถูกมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่หรือไม่นั้น
ล่าสุด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกับเนชั่นว่า การพิจารณาสนับสนุนวัคซีนให้กับพนักงานไทยเบฟฯ เป็นไปตามแนวทางการจัดสรรวัคซีนของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งมีอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นเลขานุการ
โดยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีหนังสือส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เมื่อวันที่ 18 พ.ค.แจ้งแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระบาด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้ทุกคนในประเทศไทยได้รับวัคซีนตามความสมัครใจ ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากร
สำหรับแนวทางให้บริการวัคซีนโควิดแบบปูพรมทั่วประเทศนี้ กำหนดเริ่มพร้อมกันในวันที่ 7 มิ.ย.ตามที่รัฐบาลประกาศ โดยมีรายละเอียดหลายข้อ ในข้อที่ 5 เรื่องช่องทางนัดหมายรับวัคซีนผ่านสถานพยาบาล หรือ อสม.หรือผ่านองค์กร กรณีเป็น "องค์กรขนาดใหญ่" ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานต่างชาติที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือมายังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัดได้ โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเอง
กรณีของไทยเบฟฯ เข้าเงื่อนไขข้อนี้ คือ ข้อ 5.2.3 ในแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด ซึ่งเป็นคนละช่องทางกับการแจ้งรับวัคซีนของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งเปิดให้สถานประกอบการส่งข้อมูลผู้ประกันตนให้ และสามารถไปรับวัคซีนได้ยังจุดฉีด ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดร่วมกับกระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข