เดิมพันเปิดประเทศ เติมออกซิเจนเศรษฐกิจไทย ธุรกิจขานรับปรับแผนใหม่

จุดพลุเปิดประเทศปลายปีนี้

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงการณ์ตั้งเป้าว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน โดยจะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกับคนไทยที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งท่านายกรัฐมนตรีก็ได้ยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมความเสี่ยงแต่เพื่อปากท้องของประชาชนจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้จริง ๆ โดยแผนงานดังกล่าวต้องการที่จะเร่งเติมออกซิเจนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นคืนชีพในเร็ววัน

โดยแผนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน หลังจากที่รัฐต้องประเดิมโมเดลทดลองภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ก่อนในวันที่ 1 ก.ค. 2564 หลังจากนั้นก็จะเป็นคิวของการเปิดประเทศครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว การจ้างงาน  ระบบเศรษฐกิจโดยรวมให้เดินเครื่องได้อีกครั้ง หลังจากเรื่องนี้ได้จุดพลุขึ้นหลายธุรกิจ กลุ่มนักธุรกิจก็ออกมาขานรับทันทีว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้ได้เดินทางมาถึงจุดต่ำสุดแล้วจริง ๆ

เศรษฐกิจไทยยังคงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โฆษกรัฐ แจง นายกฯให้กรอบ 120 วันเปิดประเทศ จังหวัดไหนพร้อมทำได้ก่อน

• นายกฯ ประกาศ เปิดประเทศภายใน 120 วัน พร้อมลงภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยว

• Breaking News : นายกฯ ออกแถลงการณ์ ตั้งเป้าเปิดประเทศให้ได้ 120 วันนับจากนี้

ภาคธุรกิจเอกชนขานรับยกแผง

‘นายสนั่น อังอุบลกุล’ ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การที่เปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะทำให้ทั่วโลกรู้ว่าไทยควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในภูเก็ตได้ และจะทดสอบระบบสาธารณสุข ซึ่งความสำเร็จของภูเก็ตจะเป็นต้นแบบพื้นที่อื่น ซึ่งหากเปิดประเทศได้อีกครั้งใน 120 วัน และนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางในไทยมากกว่า 300,000 คน นักท่องเที่ยว 1 ล้านคนจะเดินทางมาไทยด้วยการใช้จ่าย 50,000 บาทต่อคนต่อเที่ยว รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 4 และจีดีพีเพิ่มขึ้น 0.3% ในปี 2564 จากประมาณการครั้งก่อนที่ 0.5-2% ในปี 2564

ขณะที่ ‘นายเกรียงไกร เธียรนุกุล’ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เชื่อว่าการเปิดประเทศภายในเดือน ต.ค.2564นี้ จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะดีขึ้น เนื่องจากเร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ และเปิดประเทศภายในเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2 แสนล้านบาทต่อเดือน หากรวมแล้วใน 2 เดือนสุดท้ายของเดือนจะมีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นจีดีพี 4-5 แสนล้านบาท

ด้าน ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เผยว่า ประกาศเดินหน้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจ เป็นการเดินหน้าระหว่างระบบสาธารณสุขไทยกับทิศทางเศรษฐกิจที่เดินหน้าไปพร้อมกันเป็นครั้งแรกและมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น ในขณเดียวกันแสนสิริยังได้เล็งปรับแผนธุรกิจ พร้อมเป้าหมายยอดขาย และยอดโอนใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะประกาศให้ทราบต่อไป

มาดูทางฝั่งของสายการบิน ‘นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย บอกว่า เห็นด้วยกับนโยบายนี้ทั้งนี้รัฐก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ตามเกณฑ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่คนไทยโดยเร็วก่อนที่เปิดประเทศ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในช่วงแรกอาจจะยังไม่มากนัก แต่ถ้าไม่เดินหน้าเปิดประเทศก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา โดยในช่วงเริ่มต้นของการเปิดประเทศย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา แต่อย่างน้อยภายใน 120 วันนี้ก็จะได้เตรียมการชัดเพื่อรอแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นข้างหน้า

ส่วนฟากตลาดเงิน ตลาดหุ้น ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน อย่างเช่น ‘นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เตรียมปรับเพิ่มเป้าดัชนีหุ้นไทยปี 2564 ในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ โดยคาดเป้าหมายดัชนีใหม่จะอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด เนื่องจากความคาดหวังการเปิดประเทศภายใน 120 วันจากนี้ ตามประกาศของนายกรัฐมนตรีและดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,600 จุด

ต้องจับตากันดูอย่างใกล้ชิดว่าแผนเปิดประเทศในครั้งนี้จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง นับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่จะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2564 ที่จะถึงนี้