ศาลยกคำร้อง ทนายตั้ม - ลุงพล ยื่นฟ้องตร.ขอหมายจับมิชอบ โดยพิเคราะห์ว่า กรณีไม่มีเหตุให้ต้องไต่สวนคำร้องให้ยกคำร้อง วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำคำสั่งฟ้องของศาลจังหวัดมุกดาหาร ติดประกาศ กรณี ลุงพล ครอบครองไม้หวงห้าม
วันที่14มิ.ย.64 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความพร้อมด้วยนายไชย์พล วิภา ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ปี บนภูเหล็กไฟ ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวน กรณีตำรวจละเมิดอำนาจศาล กรณีขออนุมัติออกหมายจับนายไชย์พล เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดยศาลพิเคราะห์คำร้องของผู้กล่าวหาที่อ้างว่าพนักงานสอบสวนบรรยายคำร้องขอหมายจับว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมจะหลบหนีซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการขอหมายจับต่อศาลโดยไม่สุจริตและประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาลนั้นเห็นว่าข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งแก่ผู้กล่าวหาล้วนเป็นเนื้อหาที่มีอัตราโทษสูงเกินสามปี ซึ่งในการขอออกหมายจับพนักงานสอบสวนต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอให้เชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาน่าจะเป็นผู้กระทำผิดเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้กล่าวหาจะหลบหนีหรือไม่ ดังนั้นแม้พนักงานสอบสวนจะบรรยายคำร้องด้วยว่าผู้กล่าวหามีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี ก็หาใช่เป็นการขอออกหมายจับโดยไม่สุจริตและประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาลแต่อย่างใด กรณีไม่มีเหตุให้ต้องไต่สวนคำร้องให้ยกคำร้อง
ทั้งนี้จากกรณี เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ครอบครองไม้มะค่าแต้ ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 หลังมีการร้องเรียนให้กรมป่าไม้เข้าตรวจสอบไม้ที่ศาลแม่ตะเคียนโสรภี ซึ่งพบว่าเป็นไม้มะค่าแต้ ผู้ที่ครอบครองจะมีความผิดตามมาตรา 69 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 50,000 บาทนั้น
ความคืบหน้าวานนี้ 14 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันป่าไม้ที่ มห.2 (ดงหลวง) จ.มุกดาหาร ได้นำคำสั่งฟ้องของศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์สั่งฟ้อง นายไชย์พล วิภา ฐานความผิด ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต รับไว้ ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย และมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต