svasdssvasds

ทั่วโลกระดมฉีดวัคซีนโควิดเกิน 2,000 ล้านโดส ยังมีอีก 6 ประเทศไม่ได้ฉีด

ทั่วโลกระดมฉีดวัคซีนโควิดเกิน 2,000 ล้านโดส ยังมีอีก 6 ประเทศไม่ได้ฉีด

สถานการณ์โลก ในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้ว ผ่านมา 6 เดือน ตอนนี้มีการฉีดวัคซีน มากกว่า 2,100 ล้านโดส ขณะที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ใช้มากที่สุดทั่วโลก ส่วนวัคซีนซิโนแวคใช้มากที่สุดในประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีอีก 6 ประเทศที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย

สถานการณ์ฉีดวัคซีนทั่วโลก

สำนักข่าว AFP ระบุว่าในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากมีการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรโลก เข็มแรก ณ ปัจจุบันเมื่อเข็มนาฬิากาเดินไปข้างหน้า ตอนนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว อย่างน้อยๆ เกิน 2,100 ล้านโดส ในทั้งหมด 215 ประเทศ แต่ก็ยังมีบางประเทศที่ยังไม่มีการลุยฉีดวัคซีนใดๆให้กับประชาชนเลย

นอกจากนี้ สำนักข่าว AFP ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า มีเพียง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างจีนและสหรัฐ ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน รวมแล้วราวๆ ครึ่งหนึ่งของโลก หรือราวๆ 1,000 ล้านโดส โดยจีนฉีดไปแล้ว 661 ล้านโดส ขณะที่ สหรัฐ เกือบๆ จะแตะหลัก 300 ล้านโดส  และอันดับ 3 อินเดีย 221 ล้านโดส และ 60% ของวัคซีนทั้งหมด 2,000 ล้านโดสที่ฉีดไปแล้วทั่วโลกนั้น กระจุกตัวอยู่ใน 3 ประเทศนี้ ซึ่งเป็น 3 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก

ส่วนเปอร์เซนต์ในการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ คงหนีไม่พ้น อิสราเอล ที่นำลิ่วมาตั้งแต่ตอนแรก และอีกทั้งประเทศมีขนาดเล็ก โดย อิสราเอล ครองแชมป์ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรได้อย่างรวดเร็วและมากที่สุด หลังจากนำหน้าทุกประเทศมาตั้งแต่เริ่มต้น ขณะนี้ เกือบ 60% ของประชากรผู้ใหญ่ในอิสราเอล ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และกำลังจะเริ่มต้นฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 12-15 ปี 

ส่วนอันดับ 2  คือ แคนาดา 59% ของประชากร ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม , อันดับ 3 คือ สหราชอาณาจักร ฉีดให้ประชาชนไปแล้ว 58.3% , อันดับ 4 ชิลี ประชาชน 56.6% ได้รับการฉีดวัคซีน และอันดับ 5 คือสหรัฐฯ ฉีดให้ชาวอเมริกันไปแล้ว 51%

ณ ปัจจุบัน ทั่วโลกมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมกันล่าสุด เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 36.4 ล้านโดสต่อวัน

lazada

ประเทศที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว AFP ระบุ ยังมีอีก 6 ประเทศในโลก ที่ยังไม่มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศเลย โดยตามรายงานอ้างว่า มี 6 ประเทศ ดังนี้

  • เกาหลีเหนือ  ทวีปเอเชีย  (ประชากร 25.67 ล้านคน)
  • เฮติ ทวีปอเมริกากลาง (ประชากร 11.26 ล้านคน)
  • แทนซาเนีย ทวีปแอฟริกา (ประชากร 58 ล้านคน)
  • ชาด  ทวีปแอฟริกา (ประชากร 16 ล้านคน)
  • บูรุนดี ทวีปแอฟริกา (ประชากร 11.5 ล้านคน)
  • เอริเทรีย ทวีปแอฟริกา (ประชากร 3.2 ล้านคน)

แอสตร้าเซนเนก้า ป็อปปูลาร์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานตัวเลขจาก สำนักข่าว AFP อีกว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนที่ใช้มากที่สุด โดย มี 170 ประเทศทั่วโลกเลือกใช้ รวมถึงไทยด้วย
    ขณะที่อันดับ 2 คือ วัคซีนPfizer ถูกใช้ในอย่างน้อย 97 ประเทศ ส่วนอันดับ 3 คือ วัคซีนโมเดอร์น่า ใช้อย่างน้อย 46 ประเทศ ,  อันดับ 4 วัคซีนซิโนฟาร์ม  45 ประเทศ อันดับ 5 วัคซีนสปุตนิค วี 40 ประเทศ และวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ใช้ไปแล้ว 29 ประเทศ
    ส่วนวัคซีนของจีน 2 ตัว คือวัคซีนซิโนฟาร์ม และ วัคซีนซิโนแวค รวมไปถึงวัคซีนสปุตนิค วี ของรัสเซีย ถูกใช้มากที่สุดในประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ
    วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนต้านโควิดตัวหลักในโครงการ Covax ที่กระจายวัคซีนไปถึงกลุ่มประเทศยากจน ส่วน  และ วัคซีนโมเดอร์น่า ซึ่งเก็บรักษาได้ยากกว่า นิยมใช้ในประเทศพัฒนา

biden

สถานการณ์ฉีดวัคซีนในไทย

ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 44 ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วรวม 3.96 ล้านโดส โดยมีคนไทย 4.12% ได้วัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และมีผู้ที่ฉีดครบสองเข็มแล้ว 1.86% ของประชากร
    ข้อมูลจากทวิตเตอร์ กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า ไทยได้ฉีดวัคซีนแล้วรวม 3,961,589 โดส โดยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส จำนวน 2,727,759 คน คิดเป็น 4.12% ของประชากร และมีผู้ที่ฉีดครบสองเข็มแล้ว 1,233,830 คน คิดเป็น 1.86% ของประชากร
    วัคซีนที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนซิโนแวค จำนวนรวม 2,607,483 โดส ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ใช้แล้วจำนวน 120,276 โดส  
    หากเทียบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน ไทย ยังตามหลัง อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์,กัมพูชา และ สิงคโปร์

thaicovid

    การระดมฉีดวัคซีน นั่นคือทางออกที่ ตัดตรง ที่สุดในปัญหาโควิด-19 ครั้งนี้ นับเป็นเวลากว่า 6 เดือน ที่ทั่วโลกเริ่มการฉีดวัคซีน
  

 ...อย่างน้อยๆ หนทางไกลหมื่นลี้ย่อมเริ่มที่ก้าวแรก และตอนนี้ สถานการณ์ พ้นคำว่า "ก้าวแรก" มาพอสมควรแล้ว และยังอยู่ในระหว่างการเดินทางอันแสนไกล ขอเพียงรุดหน้าเดินต่อไป รอเพียงเวลาและการทุ่มเทอย่างหนักต่อไป รอจนกว่าจะพ้นวิกฤตโควิดครั้งนี้ เพื่อที่จะกลับมาใช้ชีวิตปกติกันอีกครั้ง...

related