ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับทีมติดตาม ปะทะคารมตำรวจรัฐสภาจริง ยันไม่มีกราบเท้าขอโทษ บอกทำความเข้าใจกันจบแล้ว ด้านสำนักเลขาสภาฯ แจง ไม่ใช่กรณีการพกอาวุธปืนและไม่ได้สั่งบังคับให้นายตำรวจกราบเท้าขอโทษ
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยถึงกรณี ที่มีกระแสข่าว รัฐมนตรีช่วยกร่างใส่ตำรวจรัฐสภา เนื่องจากห้ามผู้ติดตามเข้าสภาฯ ว่า ยอมรับว่าทีมผู้ติดตามที่เป็นข่าวเป็นทีมนายตำรวจของตนเองจริง ซึ่งเมื่อวาน (31 พ.ค.) ขณะที่ตนเดินทางเข้าไปร่วมประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีผู้ติดตามจำนวน 2 คน แต่ตำรวจรัฐสภาให้เข้าได้เพียงแค่คนเดียว โดยทางตำรวจติดตามของตนได้พูดคุยกับตำรวจรัฐสภาซึ่งให้เหตุผลว่าเป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 ต้องลดจำนวนผู้ติดตาม
อย่างไรก็ตามตนมีเอกสาร จึงได้ขอให้ผู้ติดตามขึ้นไปส่ง และพร้อมปฎิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาไม่ยอม รวมถึงมีการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ จึงทำให้มีการถกเถียงกันขึ้นระหว่าง 2 ฝ่าย ทั้งนี้เมื่อตนขึ้นไปยังห้องรับรองแล้ว เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงเรียกผู้อำนวยการสำนักสภาผู้แทนราษฎร มาชี้แจงให้ฟังว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยเห็นว่าตำรวจรัฐสภาใช้วาจาที่ไม่สุภาพใส่ทั้งตนเองและผู้ติดตาม ซึ่งควรจะพูดและอธิบายกันดีๆ ก็ได้ เพราะสถานที่ดังกล่าวมีทั้ง ส.ส. รัฐมนตรี รวมถึงผู้ใหญ่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ผู้อำนวยคนดังกล่าว จึงได้เรียกตำรวจรัฐสภาคนนั้นขึ้นมา และทำความเข้าใจกันโดยมีการยกมือไหว้ขอโทษกัน แต่ยืนยันไม่ได้มีการกราบเท้า อย่างที่ลงข่าว อันนั้นมันเกินไป
ซึ่งล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ รายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวานช่วงบ่าย โดยข้อเท็จจริงพบว่าเป็นกรณี ระหว่างที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังเข้ามาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ชั้น B2 แต่เนื่องจาก ร้อยเอกธรรมนัส มีผู้ติดตามจำนวน 2 คน และตามมาตรการของรัฐสภาอนุญาตให้ ส.ส. นำผู้ติดตามเข้ามาได้เพียง 1 คนเท่านั้น ทำให้นายตำรวจรัฐสภานายหนึ่ง ต้องแจ้งต่อผู้ติดตามของ ร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายตำรวจคนดังกล่าว ใช้น้ำเสียงที่ไม่สุภาพ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนที่พูดเสียงดังอาจฟังดูไม่สุภาพ และได้ขอโทษผู้ติดตามของ ร้อยเอกธรรมนัสในที่เกิดเหตุแล้ว และยังแสดงความประสงค์ที่จะเข้าขอโทษ ร้อยเอกธรรมนัสด้วย ทำให้ มีการนำนายตำรวจคนดังกล่าวไป ขอโทษ ร้อยเอกธรรมนัส โดย ร้อยเอกธรรมนัส ได้ตักเตือนว่าไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือบุคคลทั่วไป ก็ควรพูดด้วยวาจาสุภาพ ไม่ควรตะคอกเสียงดัง
อย่างไรก็ตามสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่ากรณี ที่เกิดขึ้นไม่ใช่กรณีการพกอาวุธปืนเข้าสภาและไม่ได้มีการสั่งบังคับให้นายตำรวจกราบเท้าขอโทษตามที่มีข่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกันเท่านั้น