นายกฯ ขอให้ทุกคนช่วยกันไปฉีดวัคซีนโควิด หวังอีกไม่นานสถานการณ์คลี่คลาย

วันนี้ 14 พ.ค.ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโรงพยาบาลบุษราคัม ณ โรงพยาบาลบุษราคัม โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุข พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงผู้บริการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงานด้วย

พลเอกประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 หลายประเทศมีความรุนแรงอยู่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการแพร่ระบาดใหม่ และต้องการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามหลายแห่งเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง โดยวันนี้ได้มีการจัดตั้งโรงบาลบุษราคัมเพิ่มอีกแห่งหนึ่งจากความร่วมมือจากทุกส่วน ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในเรื่องนี้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าวันนี้เรามีปัญหาที่ต้องประเมินตามสถานการณ์ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยสถานการณ์จะเป็นตัวชี้วัดว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มสถานที่คัดกรองการฉีดวัคซีน โดยต้องใช้บุคลากรปฏิบัติงานอีกหลาย 10,000 คน จึงต้องมีการประสานงานที่ดี แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรายังมีศักยภาพรองรับได้อยู่เมื่อเทียบกับหลายประเทศ ดังนั้น ขอทุกคนอย่าท้อแท้สิ้นหวัง อย่ามัวแต่ขัดแย้งกัน โดยเฉพาะในส่วนของสังคม ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง ทางนี้เราอาจจะทำได้ไม่ดีที่สุดแต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุด เราทำงานตามสิ่งที่เราต้องทำ ซึ่งได้พิจารณาสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา พร้อมขอให้นึกถึงผู้ที่ทำงานอยู่บนท้องถนนหลาย 10,000 คนโดยขอให้กำลังใจคนเหล่านั้นเพราะเสียสละเป็นด่านหน้า พร้อมเสี่ยงที่จะติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา จึงต้องมีการสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์ตลอดเวลา ซึ่งตนเองรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นภาพเจ้าหน้าที่ด่านหน้าเสียสละ ต้องนอนใต้โต๊ะ กลับบ้านไม่ได้ ขอยกย่องคนเหล่านี้ด้วยใจจริงและขอให้ทุกส่วนร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลบุษราคัมให้บรรลุตามเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ลดอัตราการเสียชีวิต เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปให้ได้ และเชื่อว่าหากร่วมมือกันประเทศไทยของเราจะต้องเอาชนะโรคร้ายครั้งนี้ไปให้ได้อย่างแน่นอน

สำหรับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เปิดให้บริการในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เบื้องต้นรับผู้ป่วยได้ประมาณ 1,200 คน สามารถเพิ่มเตียงได้ 3,0005,000 เตียง รองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่เจ็บป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งจากในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และสายด่วนต่างๆ จาก กทม.และปริมณฑล ให้การดูแลผู้ป่วยครบวงจร ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยระดมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ จาก 60 จังหวัด ที่พบการแพร่ระบาดน้อยมาหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ รวม 780 คน แบ่งเป็น 3 เฟสๆละ 260 คน และใช้ทรัพยากร ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ จากเขตสุขภาพที่ 4 การจัดพื้นที่ในเฟสแรกสำหรับผู้ติดเชื้อในอาคารชาเลนเจอร์ 3 แบ่งเป็น 4 โซน ดังนี้ โซน A จำนวน 270 เตียง B จำนวน 242 เตียง โซนC จำนวน 290 เตียง และโซน D จำนวน 290 เตียง ขยายได้ถึง 1,200 เตียง พร้อมติดตั้งท่อช่วยหายใจบริเวณหัวเตียงรองรับผู้ติดเชื้อสีเหลือง ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังบอกถึงสถานการณ์การแพร่โควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังวางใจไม่ได้ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่ลำบากเยอะหน่อย และคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นไม่นานสถานการณ์จะคลี่คลาย เพราะการแก้ปัญหาที่ผ่านมาก็พอใจในระดับหนึ่ง และรู้แล้วว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหนและจะแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด และประเด็นสำคัญคือการร่วมมือกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งให้ช่วยสร้างการรับรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์

ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน ยืนยันว่า จะให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้  ให้ได้ฉีดทุกคน จึงขอช่วยกันรณรงค์ให้คนเข้าลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น ‘หมอพร้อม’ และเหตุผลที่ต้องเข้าแอพ ก็เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้เร็วที่สุด
แต่ไม่ใช่ลงพร้อมกันทีละหลายคนจนเข้าไม่ได้ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น แนะนำว่าหากเข้าวันแรกไม่ได้ก็พอให้ลองเข้าในครั้งถัดไป เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการแล้ว และจากเดิมที่กำหนดให้ฉีดเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านหน้า ขณะนี้ก็ได้ขยายไปกลุ่มต่างๆ โดยจะจัดช่วงเวลาให้เหมาะสม และนายกรัฐมนตรีขอย้ำฝากถึงทุกคนให้ช่วยกันไปฉีดวัคซีน

ส่วนกรณีที่มีการติดเชื้อจำนวนมากในกรมราชทัณฑ์นั้น ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดูแลเพราะเป็นพื้นที่ควบคุมและจำกัด จึงได้สั่งการให้มีการปิดพื้นที่แล้ว พร้อมระบุว่าในราชทัณฑ์เป็นพื้นที่แออัดสามารถเกิดการแพร่ระบาดได้อยู่แล้ว จึงต้องมีการประสานงานกันเพื่อแก้ปัญหา พร้อมเชื่อว่า สามารถแก้ปัญหาได้ เมื่อมีผู้ป่วย ก็มีเตียงและมีการรักษาที่เพียงพอ 

ขณะที่การตรวจหาเชื้อเชิงรุก ยืนยันว่า มีอุปกรณ์ที่เพียงพออยู่แล้วขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือนัดตรวจและทำตามมาตรการ