นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีน นอกสถานพยาบาล เตรียมเพิ่มจุดรอบกรุง- ขยายไปพื้นที่ต่างจังหวัด ยืนยันวัคซีนไทยมีประสิทธิภาพ ลั่นฉีดวัคซีนให้คนไทยเข็มแรกในเดือนมิถุนายน บอกวันนี้ทำงานแข่งกับเวลา ขออย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสนั่น อังอุบลกุลประธานหอการค้าไทย ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด -19 นอกโรงพยาบาล บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ร่วมมือกับสาธารณสุข มหาดไทย หอการค้าอุตสาหกรรม ทั้งหมดขับเคลื่อนไปในทางเดียวกัน ให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติ ถือเป็นความร่วมมือในการกระจายวัคซีนของภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มี 14 แห่งและจะขยายเป็น 25 แห่ง ภายในวันนี้และจะมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อลดความแออัด ยอมรับว่าการจัดหาวัคซีนไม่ง่าย แตาไทยมีวัคซีนมากที่สุดในอาเซียน และจะพยายามปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทั้งหมดให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน ลองกับยาวัคซีนของไทยมีความปลอดภัย โดยรัฐบาลจะดูแลคนไทยรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานภายในประเทศไทย ตั้งแต่แรงงานต่างด้าวนักธุรกิจไปถึงฑูต เพราะถือว่ามาช่วยสร้างเศรษฐกิจ
พร้อมขอประชาชน อย่าตระหนกตื่นกลัว บางทีรับฟังข่าวสารมาหลายทาง รัฐบาลมีความมุ่งหมายชัดเจนในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุกคนอย่างรวดเร็วและครบถ้วน โดยฉะนั้นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนแล้ว
ทั้งนี้รัฐบาลใช้มาตรการช่วยเหลือประชาชนลงไป แต่ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็ประทังไปได้ก่อน เนื่องจากมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด ร้านค้า ร้านอาหารต้องดูแล ศบค.และกทมจะต้องดูแลพร้อมขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง จะให้รัฐบาลคิดยิปคิดย่อยก็ไม่ไหวต้องช่วยกัน ตนห่วงใยคนทำงานคนเดินทางบ่อยๆ แม้กระทั่งภาคธุรกิจต้องดูแลเขาด้วย ไม่ใช่คนรวยได้สิทธิ์ฉีดก่อน ตนเชื่อมั่น ว่าประเทศไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย วันนี้รัฐบาลยินดีขอบคุณและพร้อมที่จะร่วมมือกับหน่วยงานให้ฉีดเร็วขึ้น เนื่องจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไปด้วย แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการแพร่ระบาดในครอบครัว
ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ ที่มีการแพร่ระบาดในต่างประเทศ ขณะนี้ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขรับทราบ มีการควบคุมและคงตามด่านชายแดน เข้าออกเครื่องบิน เมื่อเข้ามี พบว่าติดเชื้อก็ต้องนำตัวมารักษา ไม่ว่าจะเชื้ออะไรก็แล้วแต่ หลายคนบอกสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังไม่ดีมาก แต่ตนก็มองว่าดีในระดับหนึ่ง และต้องช่วยกันทำงานแข่งกับเวลา ไม่รอถ้าใครได้ทุกเรื่อง อย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการแก้ปัญหาได้ยาก ตนขอร้อง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าไม่ได้รวบอำนาจยังทำงานเป็นทีม และต้องฟังหมอ นายกไม่ได้จบหมอ แต่ในยุคบริหารได้ ผ่านรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ขออย่ารังเกียจซึ่งกันและกันเลยเราคือคนไทยด้วยกันทั้งหมด ต้องต่อสู้กับโควิด -19 ไปด้วยกัน เพื่อชาติและประชาชนทุกหมู่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่รังเกียจทั้งสิ้น ไม่แบ่งแยกใคร สื่อต้องช่วยกันดู ข่าวที่มันไม่ใช่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ ก็อย่าไปขยายให้เขา ไม่อย่างนั้นก็ไม่จบ คนจะก็จะไม่กล้ามาฉีด
สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพฯและหอการค้าไทย เป็น 1 ใน 14 แห่ง ด้วยความร่วมมือการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างกรุงเทพฯร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆ อย่างครบถ้วนอาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดันจุดฉีดวัคซีนและจุดพักสังเกตอาการหลังฉีด โดยสามารถให้บริการ 1,000 คน/วันตั้งแต่เวลา 08:00 น - 17:00 น โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือให้บริการกลุ่มบุคลากรด้านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้จุดบริการ 14 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วยเซ็นทรัลลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ,เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ,ไอคอนสยามร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช ,True Digital Park ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช, สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ,SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์,เดอะมอลล์บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี,เดอะมอลล์บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์,ธัญญาพาร์ค ความร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก,เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก,โรบินสันลาดกระบัง ร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก ,โลตัส มีนบุรีร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก,บิ๊กซีบางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก,PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก
โดยขณะนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่งโดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และบุคลากร ซึ่งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 กรุงเทพฯหอการค้าไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยหากเปิดสถานบริการครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000 -3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้ 30,000 ถึง 50,000 ต่อวัน ซึ่งทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือนเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว