กรมศิลปากรประกาศปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานที่เก็บค่าเข้าชม หอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ถึงวันที่ 9 พ.ค.นี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19
วันที่ 26 เม.ย. กรมศิลปากรได้ออกหนังสือประกาศปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานที่เก็บค่าเข้าชม หอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ถึงวันที่ 9 พ.ค.นี้ โดยกรมศิลปากร ประกาศปิดการให้บริการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานที่เก็บค่าเข้าชม หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2564 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้าง กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ได้อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16 ฉบับที่ 19 และฉบับที่ 20 ) ออกประกาศปิดสถานที่ต่าง ๆ ในท้องที่ที่รับผิดชอบ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานที่ดูแลแหล่งเรียนรู้มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ตลอดจนโบราณสถานที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร จึงได้ออกประกาศกรมศิลปากรปิดการให้บริการและการเข้าชมแหล่งเรียนรู้มรดกศิลปวัฒนธรรมในความดูแลของกรมศิลปากรทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2564 กรณีของการถ่ายทำภาพยนตร์ในโบราณสถานหรือเขตโบราณสถานที่ได้รับอนุญาตก่อนที่จะมีประกาศฉบับนี้ ให้ถ่ายทำโดยจำกัดจำนวนไม่เกิน 10 คน และต้องดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ได้ออกมาตรการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) มากขึ้น ในอัตราร้อยละ 35 ปรับรูปแบบการประชุมโดยจำกัดจำนวนไม่เกิน 20 คน ร่วมกับการประชุมผ่าน แอปพลิเคชันออนไลน์ พร้อมทั้งกำชับให้มีวินัยในการปฏิบัติตน หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด