ปลัดกรุงเทพฯ แจงข้อสงสัยเรื่องการใส่ หน้ากากอนามัย ตามประกาศของ กทม. อ่านให้ชัด ใส่ตอนไหน กรณีที่อยู่ในรถยกเว้นหรือไม่แล้วใครได้รับอนุโลมบ้าง สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลา
ปลัดกรุงเทพมหานคร ชี้แจงข้อสงสัยเรื่องการใส่ หน้ากากอนามัย ตามประกาศของ กทม. ที่ให้ประชาชนใน กทม. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
โดยย้ำว่าเจตนา คือ การป้องกันการติดต่อของโรคโควิด-19 จากบุคคลไปสู่บุคคล การอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ จะต้องสวมหน้ากาก สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ
กรณีที่อยู่ในรถ ถ้ามีคนอื่นร่วมอยู่ด้วยในรถ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่ถ้านั่งคนเดียวอนุโลมให้ไม่ต้องใส่หน้ากาก
กรณีของผู้ประกาศข่าวหรือจัดรายการในสตูดิโอ เนื่องจากสตูดิโอถือว่าเป็นสถานที่นอกเคหสถานและสถานที่พำนัก และมีคนปฏิบัติงานมากกว่า 1 คน มีลักษณะเป็นห้องปิด ซึ่งจะมีผู้เข้ามาใช้งานต่อเนื่อง ขณะอ่านข่าวผู้ประกาศหรือจัดรายการจึงอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องสวมหน้ากากอนามัย
นอกจากนี้ ผู้ประกาศข่าวเป็นบุคคลสาธารณะที่จะมีภาพปรากฏทั่วไป จึงควรเป็นภาพที่สวมใส่หน้ากากเพื่อเป็นแบบอย่างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 มีความรุนแรงและต้องการร่วมมือจากประชาชน
กรณีเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้สวมหน้ากาก เพราะเด็กยังไม่รู้วิธีที่จะถอดหน้ากากออกและอาจขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ จึงเข้าข่ายอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัด หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
ข้อมูลจาก : ไทยคู่ฟ้า