โรงพยาบาลสนาม อาจเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการระบาดของโควิด19 รอบใหม่ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ร.พ. ปกติทั่วไปกำลังจะรับมือไม่ไหวแล้ว เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อเกินกำลัง และโรงพยาบาลสนามคือคำตอบของสมการนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมาทั่วโลกต่างก็ใช้สถานที่สาธารณะมาดัดแปลงเพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามกันแทบทุกประเทศ
โรงพยาบาลสนามมีอะไรในนั้นบ้าง รักษาผู้ป่วยได้แค่ไหน นี่คือคำถามเบสิคที่ทุกคนอยากทราบในสถานการณ์โควิด19 ระบาดอีกรอบ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว โรงพยาบาลสนาม หรือ field hospital คือ การจำลองโรงพยาบาลและหน้าที่การทำงานของทุกอย่างในโรงพยาบาลขึ้นมาแห่งหนึ่ง เริ่มตั้งแต่การรับ ดูแล และวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยหนึ่งคนเหมือนในโรงพยาบาล แต่ความแตกต่างจากโรงพยาบาลของจริง คือต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบตามลักษณะหน้างาน ที่บุคลากรมีจำนวนจำกัด คนหนึ่งคนทำหน้าที่หลายหน้าที่
ในต่างประเทศ ที่ต้องเจอกับโควิด19 อาละวาดเล่นงาน รวมถึงในไทยด้วย มีโรงพยาบาลสนามไว้เพื่อจุดประสงค์ คือเพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ที่ไม่ติดเชื้อเพื่อตัดวงจรการติดต่อของโรค ผู้ป่วยที่มาเข้าพักเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ และระหว่างการพักกักตัว แพทย์พยาบาลต้องติดตามอาการ เฝ้าระวัง หากผู้ป่วยรายใดมีอาการเปลี่ยนแปลงหรือรุนแรงขึ้น ก็จะส่งตัวผู้ป่วยรายนั้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลัก
ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าการระบาดของโควิด 19 เริ่มมาจากจีน ดินแเดนหลังม่านไผ่ ดังนั้นโรงพยาบาลสนามแห่งแรกยุคโควิดย่อมเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น โดยรัฐบาลจีนใช้เวลาเพียง 10 วันก่อสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินขนาดใหญ่ 2 แห่งขึ้นมาควบคุมสถานการณ์ โดยใช้ชื่อว่า "ห้องนั่งเล่นอู่ฮั่น (Wuhan Livingroom) รองรับผู้ป่วยได้ถึง 2000 เตียง
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามในต่างประเทศส่วนใหญ่ มักจะดัดแปลงจากสถานทีที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง อาทิ ศูนย์ประชุมต่างๆ หรือ สนามกีฬา โดยยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ดังเช่น ที่อังกฤษ เมืองลอนดอน เคยปรับพื้นที่ ศูนย์จัดแสดงเอ็กซ์เซล (Excel exhibition centre) เป็นสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อบรรจุเตียงได้ 4,000 เตียง ตั้งชื่อว่า ‘เอ็นเอชเอส ไนทิงเกล ฮอสพิทอล ลอนดอน’ (NHS Nightingale Hospital London)
ขณะที่ บราซิล ซึ่งมีการระบาดอย่างหนัก มีการปรับ พื้นที่สนามฟุตบอลและสถานที่จัดคอนเสิร์ต ‘Pacaembu’ ชื่อดังในเมืองเซา เปาโล บรรจุเตียงผู้ป่วยได้ 200 เตียง เป็นต้น เช่นเดียวกับที่รัสเซีย มีโรงพยาบาลสนามชั่วคราวเช่นกัน รองรับได้ 500 เตียง อยู่ไกลจากกรุงมอสโก ราวๆ 60 กม.
ด้าน ปากีสถาน ใช้ศูนย์จัดแสดงสินค้าในเมืองลาฮอร์ทางตะวันออกไว้รองรับผู้ป่วย ส่วนสเปน เปลี่ยนศูนย์ประชุมอิเฟมาในกรุงมาดริด เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด19 ได้มากกว่า 5,000 เตียง
ขณะที่ อิยิปต์ ใช้บริเวณลานกลางแจ้ง ที่มีขนาดใหญ่ ที่ฉนวนกาซ่า และบริเวณนี้อยู่นอกเมือง ห่างไกลผู้คน
นอกจากพื้นที่ลานกว้าง และศูนย์จัดแสดงสินค้าแล้ว บางประเทศ ยังได้ดัดแปลงเรือรบขนาดใหญ่ มาเป็นโรงพยาบาลสนามอีกด้วย อาทิ ที่สหรัฐ ได้ใช้เรือโรงพยาบาล "ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี่" (USNS Mercy) และ "ยูเอสเอ็นเอส คอมฟอร์ท" (USNS Comfort) ทั้ง 2 ลำ ซึ่งมีศักยภาพรองรับผู้ป่วยได้ลำละ 1,000 เตียง มารับมือกับการระบาดของโควิด19ในปีที่แล้วด้วย
นอกจากนี้ ที่นิวยอร์ก ยังมีการเปลี่ยน ศูนย์ประชุมเจคอบ เค. จาวิตซ์ (Jacob K. Javits Convention Center) ย่านแมนฮัตตัน เป็นเต็นท์สีขาวขนาดใหญ่บริเวณฝั่งตะวันออกของเซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) และศูนย์กีฬาเทนนิสแห่งชาติ ‘บิลลี่ จีน คิง’ (Billie Jean King National Tennis Center) สถานที่จัดการแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพ่น แกรนด์สแลมและเป็นศูนย์แข่งขันเทนนิสที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาเป็นโรงพยาบาลสนาม ความจุอย่างน้อย 350 เตียงอีกด้วย
ทั้งนี้ การรับมือโควิด19 ในทุกๆประเทศต่างใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการควบคุมโรค และในทุกความสำเร็จของการคุมโรค นั่นคือผลรวมของความพยายามเล็กๆน้อยๆ ที่ถูกทำซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ...จะพ้นจากโควิด19ได้ ต้องเกิดจากร่วมมือกัน...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• คุณทวด 104 ปีโคลอมเบีย สุดแกร่ง เอาชนะโควิด19 สองรอบแล้ว
• รู้หรือไม่? วัคซีนมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซ็นต์เมื่อเจอโควิดกลายพันธุ์
• เปิด7สายพันธุ์โควิด 19 : ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกทะลุ 3 ล้านคน