svasdssvasds

แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว

แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว

กระแสผ้าไหมก็ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง แม้ว่าจะเจอกับโควิด-19นักท่องเที่ยวหดหายไปบ้าง แต่ยังมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ยังคงนิยมชื่นชอบอยู่ โดยเฉพาะนักสะสมที่ยังคงแสวงหาลายใหม่ ๆ มาเก็บสะสมเป็นคุณค่าทางใจ แบรนด์ไหมจันทร์หอมเดินหน้าสร้างแบรนด์ดึงเอกลักษณ์เมืองอุบลถ่ายทอดผ่านลวดลาย เจาะนักท่องเที่ยว คนเมือง นักสะสม เดินหน้าทำธุรกิจเพื่อชุมชน สังคมที่ยั่งยืน

“วิยะดา อุนนะนันทน์” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ไหมจันทร์หอม เปิดเผยว่า การดำเนินงานในธุรกิจผ้าไหมจะเป็นการทำธุรกิจเพื่อสังคม และชุมชน เป็นหลัก โดยสิ่งแรกที่มาทำธุรกิจคือความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ  จากนั้นได้เข้ามาทำอย่างจริงจัง และดึงชุมชนกว่า 70 ครัวเรือนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเพื่อให้เกิดการสร้างรายได้เข้าชุมชนอย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินการมาแล้ว 4ปี กว่า ๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มที่ชื่นชอบผ้าไหม ที่ซื้อไปสวมใส่เอง และซื้อเพื่อเก็บสะสม ทั้งกลุ่มคนเมือง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี เชื่อมโยงไปยังลาวใต้ รวมถึงขณะนี้ได้เจาะลูกค้าออนไลน์แล้วด้วย

แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้จุดเด่นของแบรนด์ไหมจันทร์หอม คือลาย การออกแบบ กระบวนการผลิตที่มีความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานี เน้นคุณภาพจะผลิตลายละ 1 ผืนเท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของอุบลผ้าลายโบราณ ราคาเริ่มที่ 2,000 บาทไปถึงหลักแสนบาทขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละผืน ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายมี 2 ที่ คือร้านคุ้มจันทร์หอมเรือนไทยอีสานประยุกต์อยู่ที่ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีรวงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และร้านไหมจันทร์หอม ในตัวเมืองอุบลราชธานี ลูกค้าเดิมจะเป็นระดับกลาง –บน กลุ่มผู้หญิงวัย 30 ปีขึ้นไปที่ชื่นชอบผ้าไหม ใส่ไปทำงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ และกลุ่มคนที่ชื่นชอบสละสมที่มีกำลังซื้อสูงมาก โดยเฉพาะตลาดกลุ่มคนเมือง  หรือกลุ่มภรรยาที่ได้สามีเป็นชาวต่างชาติ นักธุรกิจไทยที่ไปทำธุรกิจต่างชาติ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์โควิด -19 จะทำให้ตลาดผ้าไหมเงียบเหงาไปบ้าง ซึ่งไหมจันทร์หอมก็พยายามปรับตัวโดยการผลิตสินค้าที่ราคาไม่สูงมากออกมาเพื่อให้คนที่กำลังซื้อไม่มากสามารถจับต้องได้ ในส่วนของคุ้มจันทร์หอมก็จะพยายามนำสินค้าท้องถิ่นอุบลให้มีความหลากหลายมาวางจำหน่าย และได้เปิดให้เยี่ยมชมศูนย์ถ่ายทอดการเรียนรู้วิถีการทอผ้าภูมิปัญญาท้องถิ่นและให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอน กระบวนการ หัตถกรรมพื้นบ้านการทอผ้าไหมเริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหม การย้อมไหม การทอ และกระบวนการอื่น ๆ ทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผืนผ้าที่งดงามและได้คุณภาพมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลักของทางคุ้มที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เสริมสร้างประสบการณ์ในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และพัฒนางาน ทรัพยากรของชุมชนให้มีคุณค่า สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชน และผู้สนใจศึกษา ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืน นำมาซึ่งความเจริญงอกงามทางด้านการศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นอันมีคุณค่าให้อยู่คู่เมืองอุบลราชธานีสืบไป เป็นการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังลาวใต้

แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้อนาคตจะนำกาบบัวมาต่อยอดทอเป็นผ้ากาบบัวของดีเมืองอุบลอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ยังจะเข้าไปสอนอาชีพในเรือนจำ ในการนำเศษผ้ามาทำเป็น กระเป๋าใบเล็ก ๆ พวงกุญแจ สร้างรายได้ให้คนกลุ่มนี้ได้ออกมามีชีวิตที่ดี ซึ่งทั้งหมดคือเรื่องราวของหญิงแกร่งแห่งเมืองดอกบัวที่ปั้นแบรนด์ไหมจันทร์หอม ผ้าไหมเอกลักษณ์ท้องถิ่นเมืองอุบลที่ทำธุรกิจเพื่อชุมชน ให้ตัวเขาเองมีความสุข และชุมชนมีความสุข พร้อมสืบสานความเป็นไทยต่อไป ใครสนใจ ช่องทางทางการติดต่อ ใครที่ชื่นชอบและหลงรักผ้าไหมไทยสไตล์จันทร์หอม สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เพจร้านไหมจันทร์หอม https://www.facebook.com/maichanhomubon/

เพจจันทร์หอม ChanHom https://www.facebook.com/pumpapoo199/  เว็บไซต์ www.chanhomstore.com และเฟซบุ๊ก wiyada Unnanuntana

แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว แบรนด์ ไหมจันทร์หอมชูเอกลักษณ์ผ้าไหมอุบลชิงลูกค้าคนเมือง-นักท่องเที่ยว

related