สรุปไวรัล เมียหลวงบุกงานแต่งสามีตำรวจ

#เริ่มเรื่อง

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ประมาณ 9 โมงเศษ มีหญิงคนหนึ่งได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ถือทะเบียนสมรส ที่ระบุชื่อฝ่ายชาย มียศ ‘สิบตำรวจตรี’ เดินเข้าไปในบ้านที่กำลังมีพิธีแต่งงาน ผ่านโต๊ะแขกเหรื่อ จนถึง ‘บ่าวสาว’ คู่หนึ่งที่กำลังถ่ายรูปกันอย่างชื่นมื่น หญิงชุดดำได้โชว์ทะเบียนสมรสต่อหน้ากล้องและพูดย้ำว่า “แต่งได้ไงไม่รู้ ทะเบียนสมรสคาอยู่ งงมาก” 

ซึ่งไลฟ์ดังกล่าวมีคนเข้าดูสดและชมย้อนหลังจำนวนมาก ยอดแชร์ล่าสุดจนถึงวันนี้ทะลุ 8 หมื่นแชร์ เป็นกอสซิปทั้งในโซเชียล และวงวิพากษ์วิจารณ์ อย่างรวดเร็ว

#แม่ผัวแห่งชาติ

ในวันเดียวกัน มีอีกคลิปถูกปล่อยออกมา.. เป็น ‘หญิง’ สูงวัยกว่าอีกคน เดินฝ่าวงพิธีเดียวกัน เข้าไปตบศีรษะ คนเป็น ‘เจ้าบ่าว’ ในชุดขาวและสั่งสอนต่อหน้าพระสงฆ์ที่กำลังสวดเจริญพุทธมนต์ สืบสาวไม่นานนักจึงได้รู้ว่า หญิงในคลิปนี้เป็น ‘แม่ฝ่ายชาย’ อยู่ในฐานะ ‘แม่ผัว’ ของหญิงชุดดำที่ถือทะเบียนสมรสบุกมาทวงสิทธิ์เมียหลวงนั่นเอง บางคนถึงกลับยกให้เป็น 'แม่ผัวแห่งชาติคนใหม่' ทันที เพราะมีความยุติธรรม ไม่เข้าข้างฝ่ายผิด แม้เป็นลูกชายตัวเอง

เรื่องราวไม่จบลงง่ายๆ เพราะฝ่ายหญิงที่มีทะเบียนสมรส บอกจะยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจาก ‘เจ้าสาวใหม่’ พร้อมแฉด้วยว่า สามีตำรวจขู่ให้ลบไลฟ์ไม่เช่นนั้นจะปล่อยคลิปลับ แต่ฝ่ายหญิงไม่กลัวและยังไม่ลบไลฟ์

ต่อมาแม่ของฝ่ายตำรวจ ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ ช่องอมรินทร์ทีวี บอกเห็นใจสะใภ้ที่อยู่กินกับลูกชายมานานหลายปี ตั้งแต่ก่อนลูกชายสอบติดข้าราชการตำรวจ พร้อมช่วยฟ้องร้องเจ้าสาวใหม่ และจะเลี้ยงดูแลหลาน 2 คน เหมือนเดิมต่อไป 

"อยากจะฝากเคสนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ถึงผู้หญิงหลายคนว่าหากรู้ว่าผู้ชายมีครอบครัวแล้ว อย่าไปทำร้ายครอบครัวคนอื่น ทั้งที่เจ้าสาวก็รู้ว่าลูกชายของตนมีภรรยาแล้ว มีทะเบียนสมรสแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังจะคงแต่งงานกับลูกชายตนอีก"

ส่วนฝ่ายพ่อของตำรวจ บอกกับสื่อด้วยว่า ไม่มีใครในครอบครัวรู้มาก่อนว่าลูกชายจะไปแต่งงานกับสาวคนใหม่!!!

#แต่งงานซ้อนผิดมากกว่าที่คิด

‘ทนายคู่ใจ’ ออกมาเตือนอาจผิดวินัยร้ายแรงตำรวจ โดยทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม แสดงความเห็นว่า ถ้าฝ่ายชายยังไม่ได้หย่า แล้วไปจัดงานแต่งใหม่ ในทางกฎหมายคือเป็นการ มี ‘ชู้’ ฝ่ายหญิงที่มีทะเบียนสมรส สามารถฟ้องหย่าและฟ้องแพ่งเจ้าสาวคนใหม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายชายที่เป็นข้าราชการตำรวจ ยังอาจถูกร้องเรียนทางวินัย เพราะข้าราชการมีชู้ ถือเป็นการประพฤติชั่ว ผิดวินัยร้ายแรงเป็นความผิดถึงขั้นไล่ออกจากราชการได้เลย มีหลายคนโดนมาแล้ว!

ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยนาท ต้นสังกัดตำรวจหนุ่ม ก็ ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพราะถือว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ

 

ส่วนพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) บอกว่า เรื่องนี้หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะถูกลงโทษทางวินัย ตาม 4 ขั้นตอนดังนี้

1. ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นหรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30 วัน

2. ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสียหรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน

3. จดทะเบียนสมรสซ้อน ลงโทษกักขัง 30 วัน

4. ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30 วัน

 

เพราะการประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ถือว่า เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีบทลงโทษที่หนักขึ้น