"กานต์ วิภากร" เล่าแชร์ประสบการณ์เคยโดน Forex-3D หลอก สูญเสียเงิน 5 ล้าน พร้อมเป็นกำลังใจให้ "จ๊ะ นงผณี" น้องไม่ได้โง่ ไม่ได้โลภ เพราะสังคมสมัยนี้ชอบทำธุรกิจทุจริตชาวบ้าน
หลังจากกรณีที่นักร้องลูกทุ่งสาว จ๊ะ นงผณี หรือ จ๊ะ อาร์สยาม ได้ออกมาเผยว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพิ่งจะบุกเข้าจับกุม ผู้บริหารบริษัท Forex-3D เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยสาว จ๊ะ ถูกโกงเงิน ทำให้ต้องสูญเสียไปมากถึง 20 ล้านบาท แถมยังบอกว่า ต้องโทษตัวเองก่อน เพราะเราโลภเอง เราโง่เอง ส่วนเขาก็ได้รับกรรมของเขาไป
ล่าสุดทางด้าน กานต์ วิภากร ภรรยาของ เสก โลโซ ได้ออกมาโพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ถึงเรื่องของแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ไว้ว่า “เพิ่งรู้ข่าวเกี่ยวกับ Forex!! อยากจะเล่าประสบการณ์ เมื่อกลางปีที่แล้ว เราไม่เคยรู้จักคำว่า Forex เลย ไม่รู้จนกระทั่งวันนี้ที่น้องจ๊ะ อาร์สยาม โดนไป 20 ล้าน เลยเซิทดู เราเคยลงทุน Forex เมื่อประมาณ พ.ค.63 แต่ก็มีปัญหาตั้งแต่เดือนแรกที่จะต้องถอนกำไร ทุกอย่างเหมือนเด๊ะแบบในเน็ตที่เค้าโดนกัน เบิกไม่ได้ ถอนไม่ได้ เอาเงินคืนใช้เวลานาน เวลาผ่านไป3-4 เดือนมั้ง เราถึงได้คืน เราลงทุนโดยไม่รู้อะไรเลย เราเป็นคนเชื่อคนง่ายและไว้ใจคนง่าย ช่วงนั้น เครียดมาก ไม่บอกใคร เสกก็ไม่รู้ เหตุเกิดเนื่องจากโควิดคราวที่แล้ว เราไม่มีรายได้เลย ต้องใช้เงินเก่า ซึ่งภาระเยอะมาก ก็เลยลงไป 5 ล้านแล้วก็มีปัญหาตั้งแต่แรกจนเราเด็ดขาดละ ในที่สุดก็ได้เงินคืนด้วยวิธีไหน ไม่ต้องรู้หรอก คิดว่าทางนั้นไม่ได้โกงหรอกแต่เราไม่สบายใจจึงพยายามถอนออก
อุทาหรณ์สำหรับเราคือ ไม่เอาแล้ว พวกเงินตอบแทนเยอะๆ มันเครียดเราลงทุน หวังผลตอบแทนเพราะเราพลาด เราก็อยากได้เงินตอบแทนเยอะๆ เมื่อมีโอกาศแล้วพลาดบ่อยมากตั้งแต่โดนหลอกจากฝั่งเพชรเกษมแรกๆ ก็โดนเจ้าเดิมหลอกต่อ ก็โดนมาเรื่อยๆนะและพอหมดหวัง ก็โง่เจอแบบเดิมอีก ก็คิดว่าชัวร์ แต่ก็พังไม่เป็นท่า แต่ไม่มีใครรู้เลยสักคนเดียว ไม่กล้าพูด ไม่แจ้งความ
ยอมรับสภาพ โง่เอง แต่ไม่เคยโลภ แค่ต้องการเงินคืนเลี้ยงครอบครัว ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ยังโชคดีที่ขอเงินคืนได้ แต่เค้าไม่โกงนะ ไม่หลอกแต่กลัวและขยาดแล้วเพราะมีปัญหาตั้งแต่งวดแรก เลยตั้งปณิธานว่า ต่อแต่นี้จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป เหนื่อยก็ไม่ท้อ เงินมากเงินน้อยก็จะทำ เพื่อครอบครัวที่เรารัก เป็นกำลังใจให้ จ๊ะ อาร์สยาม ด้วยคะ น้องไม่ได้โง่ ไม่ได้โลภ แต่สังคมสมัยนี้ ไม่มีเงินก็ทำทุจริต หลอกเอาเงินชาวบ้าน คดโกง คอรัปชั่น ยิ่งรู้ว่าใครมีเงินยิ่งเป็นเป้า โดนกันหมด แค่เค้าไม่พูด ไม่โวย เท่านั้น
ส่วนคนมีเงิน ก็ไม่ปลอดภัย เพราะการที่จะรักษาทรัพย์สินให้คงอยู่หรืองอกเงยขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะ คนเลว คนจ้องตะครุบเหยื่อมันเยอะ และ คนมีเงิน ภาระก็เยอะเป็นเงาตามตัวประกอบกับ ดอกเบี้ยธนาคาร!!! กูว่า ไม่ต่างกับขุดหลุมฝังเงินในบริเวณบ้านเลย เสียเวลาไปแบ็งค์เปล่าๆ ครั้นจะคิดเรื่องการลงทุนค้าขายอะไร ยุคสมัยนี้
ขอถาม นอกจากท่านๆๆทั้งหลาย ก็เจ๊งกันทั้งประเทศแหละ หรือจะเถียง ในเมื่อท่านแดกกันเอง ไม่แบ่งให้ปชช.ได้ลืมตาอ้าปากเลยสักเสี้ยววินาทีเดียว กูก็ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงครอบครัวและบริวาร ตอนนี้เงินลงทุนยังเหลือ 1 ล้าน จะได้อีกประมาณเดือนนึง หลอน”