ข่าวเด่นประเด็นร้อนตอนนี้ในแวดวงธุรกิจโลกเห็นทีจะเป็นเรื่องการที่‘แจ๊ค หม่า’ นักธุรกิจชาวจีนหายตัวล่องหนไร้ร่องรอยกว่า 2 เดือน หลายฝ่ายบอกว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันอย่างไรกับการล้มแผนทำ IPO เข้าตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงของ "แอนท์ กรุ๊ป" รวมทั้งการเพ่งเล็งตรวจสอบอาณาจักรอาลีบาบาว่าเข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่
เศรษฐกิจไทยจะไปรอดหรือไม่นั้นก็ต้องพึ่งพาการส่งออกด้วยอีกทางหนึ่งนอกจากอื่น ๆ ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจีนคือประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาช้านาน และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยและเอกชนไทยกับเอกชนจีนก็มีความสัมพันธ์กันมาช้านานเช่นกัน โดยไทยส่งออกสินค้าต่าง ๆไปจีนมากมาย เช่น ผลไม้ อุตสาหกรรมอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
หนึ่งในนักธุรกิจชาวจีนที่คนไทยรู้จักดี คือนายแจ๊คหม่า (Jack Ma ) มหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของประเทศจีน ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 50,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจ “อาลีบาบา” โดยเขาคนนี้ก็ได้เดินทางมาเยือนไทย และเจรจาการค้ากับรัฐบาล รวมถึงเอกชนไทยหลายครั้งแล้ว พร้อมทั้งเขายังสนใจเข้ามาลงทุนในไทยในการดำเนินโครงการความร่วมมือและพัฒนาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยใช้อี-คอมเมิร์ซพัฒนาการค้าไทย-จีน อย่างเช่น ผลิตผลทางการเกษตรของไทย อย่างข้าวหอมมะลิ ทุเรียน ลำไย หรือผลไม้ต่าง ๆ ล้วนเป็นสินค้าที่ชาวจีนชื่นชอบ
โดยเขาได้คุยกับไทยไว้ว่าการลงทุนและความร่วมมือของเขาจะมี 8 ด้าน คือ 1.การส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย 2. การส่งออกสินค้าไทยสู่นานาชาติมีเป้าหมายส่งออกสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ 3.การท่องเที่ยว จะช่วยให้เกิดการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว 4.การพัฒนาบุคลากรจะอบรมอี-คอมเมิร์ซ 5.การลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า 11,000 ล้านบาท 6.ส่งเสริมดิจิทัล 7.ตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ให้บริการด้านภาษี พิธีการศุลกากร และการแลกเปลี่ยนเงินออนไลน์ครบวงจร และ 8.การเงินดิจิทัลจะอำนวยความสะดวกการค้าออนไลน์ผ่านระบบ Alipay
จากที่กล่าวมาเบื้องต้นจะเห็นได้ว่านักธุรกิจคนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการค้าขายกับไทย แต่...วันนี้เขาได้หายตัวไปไหน ยังไม่มีใครทราบ เป็นคำถามที่แวดวงธุรกิจทั่วโลกอยากรู้ แต่หลายฝ่ายก็ออกมาสงสัยว่าการล่องหนไร้ร่องรอยกว่า 2 เดือนของนายแจ๊ค หม่า ในครั้งนี้เกี่ยวพันอย่างไรกับการล้มแผนทำ IPO เข้าตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงของ "แอนท์ กรุ๊ป" รวมทั้งการเพ่งเล็งตรวจสอบอาณาจักรอาลีบาบาว่าเข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่ ?
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนธันวาคม 2563ที่ผ่านมา“อาลีบาบา กรุ๊ป” ยังถูกรัฐบาลจีนสืบสวนด้านการผูกขาดตลาด โดยทางการแจ้งว่า ได้รับร้องเรียนว่าบริษัทกำลังพยายามผูกขาดตลาดและกีดกันการแข่งขันของธุรกิจรายย่อย พร้อมกันนี้แจ๊ค หม่า ยังได้ไปวิพากษ์วิจารณ์ระบบกฎเกณฑ์ของรัฐบาลซึ่งเท่ากับเป็นการกระตุกหนวดเสือ แต่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเห็นว่าถึงเขาไม่ได้พูดจาบจ้วงระบบหรือท้าทายรัฐบาลขนาดนั้นอย่างไรอาณาจักรธุรกิจของเขาก็ต้องถูกเพ่งเล็งและเล่นงานอยู่ดีเพราะอาลีบาบานั้นเหมือนเสือติดปีกที่ใหญ่เกินไปจนอาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานหรือสถาบันของภาครัฐ
ทั้งหมด คือ เรื่องราวของนักธุรกิจที่ชื่อว่า‘แจ๊ค หม่า’ ซึ่งก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญกับเศรษฐกิจไทยไม่มากก็น้อย วันนี้เขายังหายตัวลับเข้าไปในกลีบเมฆ !