ทำความรู้จัก “พาเวล ดูรอฟ” ผู้ก่อตั้ง Telegram

Telegram แอปพลิเคชันที่กำลังคุ้นหูคนไทยในเวลานี้ หลังมีกระแสข่าวว่า จ่อถูกแบนจากการไทย เนื่องการกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศว่า ได้มีการเปิดบัญชีในแอปพลิเคชันดังกล่าว  

สื่อโซเชียลนี้มีความเป็นมาอย่างไร ? และชีวิตของ “พาเวล ดูรอฟ” ผู้ก่อตั้ง ยิ่งกว่าหนังฮอลลีวูด ยังไง ? สปริงนิวส์ขอนำมาเล่าสู่กัน ดังต่อไปนี้

ชีวิตของ พาเวล ดูรอฟ ว่าไปแล้ว มีส่วนคล้ายๆ กับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แห่ง Facebook ในช่วงเริ่มต้นก่อร่างสร้างสื่อโซเชียลที่ชื่อว่า VKontakte จนทำให้เขาเคยได้รับฉายาว่า “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แห่งรัสเซีย” 

และมีบางช่วงชีวิตละม้ายกับ สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple เพราะเขาเองก็เคยถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้ง

ก่อนที่จะสร้างความโดดเด่น จนทำให้ผู้คนรู้จักเขาในตัวตนที่เป็นดูรอฟอย่างแท้จริง ก็เมื่อได้ปลุกปั้น Telegram แอปพลิเคชันที่สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลในหลายๆ ประเทศ

พาเวล ดูรอฟ เกิดที่รัสเซีย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2527 ปัจจุบันอายุ 36 ปี หลังจากสำเร็จปริญญาตรี ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 จาก the Saint Petersburg State University เมื่อปี 2549 เขาก็ได้ร่วมกับพี่ชายก่อตั้งสื่อโซเชียลที่ชื่อว่า VKontakte ขึ้นมา และได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว จนมีผู้ใช้สูงถึง 350 ล้านยูเซอร์ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี ในขณะที่มีอายุเพียง 20 ปีกว่าๆ เท่านั้น

การเติบโตของ VKontakte แม้ในทางธุรกิจจะไปได้สวย แต่ได้สร้างความกังวลให้กับรัฐบาล เพราะดูรอฟ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ปลื้ม “วลาดีมีร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย ส่งผลให้ VKontakte กลายเป็นสื่อโซเชียล ศูนย์รวมของผู้มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล ทั้งในรูปแบบการวิพากษ์วิจารณ์ หรือนัดแนะจัดกิจกรรมสนับสนุนนักการเมืองฝั่งตรงข้าม

นานวันเข้า รัฐบาลรัสเซียก็ไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้ จึงพยายามเข้ามาควบคุม VKontakte ทำให้ดูรอฟรู้สึกว่าธุรกิจของเขากำลังถูกคุกคาม แต่แทนที่จะสยบยอม เขากลับยืนกรานจะไม่ทำตามคำสั่งของใคร ดูรอฟจึงกลายเป็นตัวแสบ ในสายตาเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อไม่สามารถควบคุมดูรอฟได้ รัฐบาลจึงใช้วิธีพยายามควบคุมกิจการของเขาแทน โดยได้ให้นักลงทุนที่ชื่อ Ivan Tavrin เจ้าของ Mail.ru ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจกดดันจนได้หุ้น VKontakte มา 12 % กระทั่งกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ได้ครอบครองจำนวนสูงถึง 52 % ในปี 2557

และในปีเดียวกันนั้นเอง ดูรอฟก็ถูกบอร์ดของ VKontakte ไล่ออกจากบริษัทที่เขาสร้างมากับมือ ซึ่งสถานการณ์นี้เหมือนกับที่สตีฟ จอบส์ เคยโดนมา ตามที่ได้เล่าไว้ก่อนหน้านี้

และในที่สุด Mail.ru บริษัทที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล ก็ได้ครอบครอง VKontakte สมใจ แต่ดูรอฟก็ใช่ว่าจะถอดใจยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อประเมินแล้วเห็นว่า สมรภูมิรัสเซีย สู้ไปก็ไม่มีวันชนะ เขากับพี่ชายและพนักงานส่วนหนึ่งจึงเดินทางไปสหรัฐ ก่อนปักหลักที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสร้างโปรเจคต์ในฝัน

โปรเจ็คต์ในฝันดังกล่าวก็คือ Telegram แอปพลิเคชันแชตแบบเข้ารหัส ที่ยากต่อการสอดแนม โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านยูเซอร์ 

ซึ่งด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อย่างเข้มข้น จึงทำให้หลายประเทศกังวลว่า Telegram จะกลายเป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล กลุ่มก่อการร้าย รวมถึงกลุ่มอาชญากรอื่นๆ

และทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวของ พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้ง Telegram แอปพลิเคชันที่คาดว่า น่าจะกำลังสร้างความปวดหัวให้กับรัฐบาลไทยในเวลานี้ ไม่ใช่น้อยๆ เช่นกัน