กรมป่าไม้ บก.ปทส. ส.ป.ก. เอาจริง ลงชี้จุดตรวจรุกป่า ที่ดิน "เอ๋ ปารีณา"

หลังจากที่ "กฤษฎีกา" ตอบกรมป่าไม้กรณีการดำเนินคดี  น.ส.ปารีณา ครอบครองที่ดิน 682 ไร่ในพื้นที่เขต จ. ราชบุรี ชี้ชัด ส.ป.ก. ยังไม่นำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ จึงยังถือเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ ส.ป.ก. เป็นเจ้าภาพดำเนินการตามกฎหมายร่วมกับกรมป่าไม้

วันนี้ (12ก.พ.63) จากกรณีที่กรมป่าไม้ ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ตีความกรณีการครอบครองที่ดิน 682 ไร่ในต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ

ซึ่งกรมป่าไม้ ได้รับหนังสือหารือข้อกฎหมายเรื่อง การบังคับใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยกรมป่าไม้จะประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่วมตรวจสอบดำเนินคดีตามประมวลกฏหมายที่ดิน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507

โดยการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในส่วนพื้นที่รับผิดชอบของ สปก. ร่วมกับคณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)เจ้าของคดีที่ทางกรมป่าไม้ ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.ปารีณาไว้ โดยนัดหมายเข้าพื้นที่วันนี้

โดย พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน นาย ธวัชชัย ลัดกลูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 กรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณ ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี นำลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี

เพื่อชี้จุดที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.พลังประชารัฐ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 46 ไร่เศษ และ จะไปตรวจสอบพื้นที่ และพื้นที่ สปก.เพิ่มเติมอีก 682 ไร่ หลังคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนเเห่งชาติ เพราะยังไม่ได้มีการจัดสรรที่ดิน ให้กับชาวบ้านตามหลักเกณฑ์ ของ ส.ป.ก.

โดย การปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น โดยมีนายภูมิพัฒน์ จำปาทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เป็นผู้นำ ชี้จุดรังวัด

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ วันนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริงในการถือครองที่ดิน เพื่อใช้ในการคำนวนค่าเสียหายในการส่งให้ศาลพิจารณากล่าวโทษต่อคู่กรณี ซึ่งพ.ต.อ.วัชรินทร์ ระบุว่าในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้นัด น.ส. ปารีณา ไกยคุปต์ เวลา 10.00 น. มาชี้จุดที่ดินของตนเอง แต่ได้ส่ง ผู้ใหญ่บ้าน รางบัว มาเดินดูรังวัดแทน

ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า หลังมีกฤษฎีกาตอบรับว่าที่ดินเป็นพื้นที่ของป่าสงวน ทางกรมป่าไม้ในฐานะผู้เสียหายจึงต้องลงตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับ ส.ป.ก. ซึ่งพื้นที่เสียหายอาจจะไม่ใช่ 672 ก็ได้ เพราะในคำตัดสินของกฤษฎีกายังไม่ได้ระบุพื้นที่เสียหาย ซึ่งทีมรังวัดที่มาทำงานวันนี้มาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการรังวัดที่ดินใหม่